จับตา‘บี.กริม เพาเวอร์’ผู้นำธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนของไทยเตรียมเปิดให้ลงทุนในตลาดหุ้น 19กรกฎาคมนี้

จับตา‘บี.กริม เพาเวอร์’ผู้นำธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนของไทยเตรียมเปิดให้ลงทุนในตลาดหุ้น 19กรกฎาคมนี้

จับตา‘บี.กริม เพาเวอร์’ผู้นำธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนของไทยเตรียมเปิดให้ลงทุนในตลาดหุ้น 19กรกฎาคมนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    ความสำคัญและความต้องการไฟฟ้า มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน ไม่เพียงแต่ในครัวเรือนเท่านั้น ในภาคอุตสาหกรรมความมั่นคงทางด้านพลังงานก็เป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ ‘บี.กริม เพาเวอร์’ ผู้ผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศไทย จึงตัดสินใจก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนมาพัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิตไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม 

     ปัจจัยที่ทำให้หุ้น “BGRIM” ที่กำลังจะเปิดตัวกลางเดือนกรกฏาคมนี้ เป็นโอกาสที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการลงทุนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ได้แก่

รากฐานทางธุรกิจที่มั่นคง

     บี.กริม เพาเวอร์ มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้ามากว่า 24 ปี มีทีมผู้บริหาร วิศวกร และบุคลากร ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานและการซ่อมบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าได้เอง ด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับความโปร่งใส, การรักษาสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงการเข้าถึงชุมชน ตามวิสัยทัศน์ ‘สร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี’ บี.กริม เพาเวอร์ จึงได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าอุตสาหกรรมกว่า 300 ราย ว่าสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพสูง จึงมีรายได้ที่มั่นคงจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว กับทั้ง กฟผ., กฟภ., EDL, ลูกค้าอุตสาหกรรม, และสัญญาการจัดหาก๊าซธรรมชาติกับ ปตท. จุดแข็งทางธุรกิจเหล่านี้สะท้อนถึงผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้ถึง 18.2%

ทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน

     ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งหมด 43 โครงการ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 28 โครงการ และที่กำลังก่อสร้างและพัฒนาอีก 15 โครงการ หากโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างและพัฒนาดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ จะทำให้บริษัทฯมีกำลังผลิตรวมเป็น 2,357 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564

     นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนการขยายธุรกิจใน สปป.ลาว ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซกอง 4 ราว 350 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการเจรจาเสนอขายไฟฟ้าแล้ว และมีแผนที่จะเข้าลงทุนในโครงการ SPP Hybrid Firm และธุรกิจติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานลูกค้าของบริษัทฯ พร้อมดำเนินการศึกษาเทคโนโลยี Energy Storage เพื่อช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงพีค รวมถึงโครงการโซล่าร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ฯ 2560 ซึ่งบริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ดำเนินโครงการให้กับ อผศ. และสหกรณ์ รวมประมาณ 36 เมกะวัตต์ และบริษัทฯยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับทางสหกรณ์ที่มีความประสงค์ให้ทางบริษัทฯ เป็นผู้สนับสนุนและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SPP replacement ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโรงละ 150 เมกะวัตต์ เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมอีก 3 โครงการ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และเวียดนาม

     การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนให้ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถดำเนินงานและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเศรษฐกิจไทย ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

     หุ้น IPO ของ บี.กริม เพาเวอร์ จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในชื่อ ‘BGRIM’ พร้อมเปิดซื้อขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 19 กรกฎาคม 2560 นี้ ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารของ บี.กริม เพาเวอร์ เพิ่มเติมได้ที่  http://www.bgrimmpower.com/th

 


[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook