กนอ.หาที่2,000ไร่สร้างนิคมยางเพิ่มในนราฯ

กนอ.หาที่2,000ไร่สร้างนิคมยางเพิ่มในนราฯ

กนอ.หาที่2,000ไร่สร้างนิคมยางเพิ่มในนราฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กนอ. หาพื้นที่ 2,000 ไร่ สร้างนิคมยางเพิ่มในจ.นราธิวาส นำโมเดล RubberCity สงขลาพัฒนาต่อยอด - ขายพื้นที่แล้ว 20%

นายวีรพงษ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ (กนอ.) เปิดเผยว่า ล่าสุด คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (บอร์ดกนอ.) มีมติเห็นชอบให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมยางพาราใน อ.ยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพในเรื่องของอุตสาหกรรมยางพารา อุตสาหกรรมอาหาร อาหารฮาลาล รวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งขณะนี้ กนอ.อยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่จำนวน 2,000 ไร่ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในปลายปี 2560 นี้ จากนั้น หากบอร์ดกนอ. เห็นชอบ ก็จะดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2561 - 2563 และพร้อมเปิดดำเนินกิจการในปี 2564 โดยการก่อสร้างนิคมฯยางพารา จ.นราธิวาส จะนำต้นแบบ Rubber City จังหวัดสงขลาไปพัฒนาต่อยอด

นายวีรพงษ์ ยังเปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) จังหวัดสงขลา ล่าสุดมีผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปยางพารา ในอุตสาหกรรมถุงมือยาง สารเคมีที่เกี่ยวข้องกับยาง ยางคอมพาวน์ ทั้งของไทยและต่างชาติ เช่น ศรีลังกา มาเลเซีย จีน อิตาลี สนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ Rubber City คิดเป็นพื้นที่ที่ขายแล้วรวม 120 ไร่ หรือ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ขายทั้งหมดจำนวน 660 ไร่ โดยกนอ.มั่นใจว่า จะสามารถขายพื้นที่ทั้งหมดเร็วกว่าแผนที่วางไว้ โดยขณะนี้โครงการฯมีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 50 

พร้อมกันนี้ กนอ.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สนับสนุนสานพลังประชารัฐ บูรณาการความร่วมมือด้านการจัดหาแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักแรงงาน แรงงานจังหวัดสงขลา จัดหางานจังหวัดสงขลา สถาบันการศึกษาและอาชีวศึกษา 6 แห่ง เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในสถานประกอบการ เตรียมความพร้อมด้านแรงงานรองรับการลงทุนในนิคมฯยางพารา 

นอกจากนี้ นายวีรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการประชารัฐในนิคมยางพารา กรอ.ได้ก่อสร้างโรงงานมาตรฐานรองรับผู้ประกอบการ SMEs โดยล่าสุดผู้ประกอบการ SMEs เช่าพื้นที่เฟส 2 เต็มโครงการแล้วทั้ง 3,500 ตารางเมตร และ กนอ.อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารโรงงานมาตรฐานสำเร็จรูปเฟสที่ 3 เพื่อรองรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการประมาณกลางปี 2561

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook