อย่าใช้บัตรเครดิต ในเรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่อยากเป็นหนี้หัวโต

อย่าใช้บัตรเครดิต ในเรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่อยากเป็นหนี้หัวโต

อย่าใช้บัตรเครดิต ในเรื่องเหล่านี้ ถ้าไม่อยากเป็นหนี้หัวโต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บัตรเครดิตใบเล็ก ๆ นี้ เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ให้คุณประโยชน์แก่ผู้ใช้อย่างมหาศาล แต่ถ้าคุณใช้มันโดยไม่รู้จักคิดวางแผนให้รอบคอบ คุณอาจจะตกเป็นทาสของมันไปโดยปริยาย และต้องเป็นหนี้สะสมดอกทบต้นพอกพูนจนใช้คืนไม่หวาดไม่ไหว ดังนั้น อย่าใช้บัตรเครดิต โดยที่ยังไม่วางแผนการใช้ให้รอบคอบ MoneyGuru.co.th จึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ ไม่ควรใช้บัตรเครดิตมาฝากคุณผู้อ่านกัน

1. ห้ามใช้บัตรเครดิตไปจ่ายหนี้อื่น ๆ เด็ดขาด
สถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าอันตรายมากที่สุดในการใช้บัตรเครดิต และถือเป็นการใช้บัตรเครดิตที่ผิดอย่างร้ายแรงที่สุดด้วย เพราะการที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระหนี้อื่น ๆ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หรือแม้แต่บิลบัตรเครดิตใบอื่นของคุณ มันไม่ได้ช่วยให้คุณมีหนี้สินลดลง แต่มันทำให้คุณมีหนี้สินเพิ่มพูนมากขึ้นไปอีกต่างหาก ลองยกตัวอย่างค่าผ่อนรถ เป็นที่รู้กันว่าค่างวดรถนั้นจะมีดอกเบี้ยรวมอยู่ด้วย หากคุณใช้บัตรเครดิตไปจ่ายค่าผ่อนรถนั่นหมายความว่าคุณสร้างหนี้เพิ่ม ด้วยการรวมเอาดอกเบี้ยรถนั้นมาเป็นเงินต้น แล้วต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นสูงมาก ๆ ถือเป็นการสร้างหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็นเลย

เว้นเสียแต่ว่าคุณเตรียมเงินค่างวดรถเอาแล้ว แต่เลือกที่จะจ่ายค่างวดรถนั้นด้วยบัตรเครดิต เพราะต้องการเพิ่มคะแนนสะสมในบัตรเครดิต หรือต้องการ cashback คืนเข้าสู่บัตรเครดิตของคุณ โดยนำเงินค่างวดไปชำระบัตรเครดิตทันทีเต็มจำนวน วิธีนี้จะทำให้คุณไม่ต้องเสียดอกเบี้ยบัตรเครดิตเพิ่ม แถมยังได้แต้มหรือ cashback เข้าบัตรเครดิตอีก ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ฉลาดกว่าในการใช้บัตรเครดิต

2. อย่าใช้บัตรเครดิต โดยที่ไม่รู้ว่าใช้ไปมากแค่ไหนแล้ว
การใช้บัตรเครดิตโดยไม่รู้จักควบคุมหรือใช้ไปตามอำเภอใจ โดยไม่สนว่าใช้ไปมากแค่ไหนและไม่สนใจวงเงินที่คงเหลือในบัตรเครดิต ถือเป็นการใช้บัตรเครดิตที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่ามันอาจจะทำให้คุณใช้เงินเกินตัวน่ะสิ คำว่าวงเงินบัตรเครดิตหมายถึงเงินในอนาคตที่ธนาคารให้คุณยืม ไม่ใช่เงินที่คุณมีอยู่จริง ๆ ถ้าใช้วงเงินเพลินจนมันมากเกินกว่าจำนวนเงินสดที่คุณมีอยู่ล่ะ แน่นอน ทำให้คุณต้องเลือกจ่ายบิลบัตรเครดิตบางส่วน หรือถ้ามีบัตรเครดิตหลายใบก็จำใจต้องเลือกจ่ายแค่ขั้นต่ำ ซึ่งเท่ากับคุณติดกับดักของธนาคารเสียแล้ว เพราะดอกเบี้ยก้อนใหญ่กำลังจะตามมาหลอกหลอนคุณ

วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามอย่าใช้จ่ายเกิน 30% ของวงเงินบัตรเครดิต เช่น คุณได้วงเงินบัตรเครดิตมา 50,000 บาท ให้คุณโทรไปแจ้งกับธนาคารเพื่อทำการจำกัดวงเงินการใช้บัตรเครดิตของคุณให้เหลือเพียงแค่ 30% หรือ 15,000 บาท ก็พอแล้ว หนึ่งเพื่อป้องกันการใช้เงินเกินตัว สองเพื่อทำให้คะแนนเครดิตของคุณดี ต่อไปจะกู้อะไรถ้าหากมีคะแนนเครดิตดีก็จะได้รับอนุมัติง่าย

3. หนี้เก่ายังไม่ได้จ่าย ก็สร้างหนี้ใหม่ขึ้นมาอีก
“ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก” น่าจะใช้ได้กับสถานการณ์นี้ เพราะหนี้เก่าที่คุณมีอยู่กับบัตรเครดิตยังไม่ทันจะถูกใช้คืน คุณก็ไปก่อหนี้ใหม่เพิ่มเข้ามาอีก ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยเป็นหนี้! จำนวนเงินต้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล ดอกเบี้ยต่างหากที่น่ากังวลกว่า เพราะดอกเบี้ยนั้นถูกคำนวนจากยอดเงินต้นที่คุณใช้ไป ตราบใดที่คุณเลือกไม่ชำระเต็มจำนวน และที่สำคัญ ดอกเบี้ยจะถูกคิดเป็นรายวันทำให้ยิ่งคุณปิดหนี้เก่าช้าเท่าไหร่ ดอกเบี้ยก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปตามกาลเวลาเท่านั้น

หนทางแก้ไขคือพยายามใช้จ่ายบัตรเครดิตเท่าที่คุณจะสามารถใช้คืนได้ หลักเกณฑ์ง่าย ๆ คือไม่ว่าคุณจะมีวงเงินบัตรเครดิตมากเท่าไหร่ก็ตาม คุณต้องกำหนดเอาไว้ว่าจะไม่ใช้จ่ายบัตรเครดิตเกินกว่ารายได้ของคุณ เช่น หากคุณมีเงินเดือน 15,000 บาท หักค่าใช้จ่ายเหลือ 7,000 บาท ได้วงเงินบัตรเครดิต 50,000 บาท ก็ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในแต่ละเดือนไม่เกิน 7,000 บาท สิ้นเดือนคุณก็จะมีเงินมาจ่ายบิลบัตรเครดิตได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำหรือบางส่วนให้เกิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีก

4. ไม่สนใจใช้สิทธิพิเศษของบัตรเครดิตที่มีอยู่
บัตรเครดิตถ้ารู้จักใช้ มันสามารถสร้างประโยชน์ให้คุณได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิผ่อน 0% หรือส่วนลดจากห้างร้านต่าง ๆ รวมไปถึงการแลกคะแนนสะสมเพื่อรับของสมนาคุณหรือบริการต่าง ๆ เป็นต้น การที่คุณใช้บัตรเครดิตไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่เลือกใช้สิทธิประโยชน์เหล่านั้นถือว่าน่าเสียดายอย่างมาก เพราะมันเป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ถ้าไปเติมน้ำมันคุณอาจจะเลือกใช้บัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่นร่วมกับสถานบริการน้ำมัน เช่น เติมน้ำมันครบ 800 บาทด้วยบัตรเครดิตใบนี้ จะได้คะแนนสะสม 2 เท่า อีกกรณีคือเมื่อไปทานอาหารก็เลือกใช้บัตรเครดิตที่มอบส่วนลดพิเศษ หากคุณชำระเงินด้วยบัตรเครดิตใบนั้น หรือเมื่อซื้อสินค้าราคาแพงก็รีบแจ้งกับธนาคารว่าคุณต้องการใช้สิทธิพิเศษผ่อน 0% ทันที เพื่อประหยัดเงินค่าดอกเบี้ย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือการใช้สิทธิพิเศษที่บัตรเครดิตมอบให้กับคุณ ถือเป็นการใช้บัตรเครดิตอย่างเต็มประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้สูงสุด

5. เงินหมดกระเป๋า ก็ใช้บัตรเครดิตกดเงินสดมาใช้เสียเลยสิ
การกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มโดยใช้บัตรเครดิตเป็นการสร้างหนี้เพิ่มแบบคูณสอง (หรืออาจจะมากกว่าสอง) เพราะมีค่าธรรมเนียมการกดเงินทันทีที่กดอีก 3% (บวก VAT เข้าไปอีก 7%) ไหนจะอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าเสียด้วยซ้ำ ซึ่งมีอัตราสูงสุดถึง 28% ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยนี้จะถูกคำนวนทันทีตั้งแต่วินาทีที่เงินสดกระเด้งออกมาจากตู้เอทีเอ็มโดยจะถูกคำนวนเป็นรายวัน ฉะนั้นต่อให้คุณกดเงินสดออกมาแล้วจ่ายเงินคืนในวันรุ่งขึ้น คุณก็ต้องเสียดอกเบี้ยจำนวน 2 วันพร้อมกับค่าธรรมเนียมและ VAT ให้กับธนาคารอยู่ดี

ทางที่ดีที่สุดคืออย่าใช้บัตรเครดิตกดเงินสดออกจากเอทีเอ็มเด็ดขาด ใช้บัตรเครดิตในการรูดซื้อสินค้าอย่างเดียวจะดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยสูง ๆ จากการใช้บัตรเครดิตผิดประเภท ซึ่งมีแต่จะเพิ่มภาระให้กับตัวคุณเอง จนสุดท้ายคุณอาจจะโดนกองดอกเบี้ยล้มทับจนท่วมหัวหาทางออกไม่เจอเลยก็ได้

6. จ่ายบิลบัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำ ภาระต่อเดือนน้อยดี
การจ่ายบิลบัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำทุกเดือนนั้น คุณอาจจะรู้สึกสะดวกสบายเพราะภาระค่าใช้จ่ายนั้นน้อยมาก แถมยังได้สินค้ามาใช้ด้วย แต่คนที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดคือธนาคารไม่ใช่คุณ เพราะในยอดขั้นต่ำนั้นส่วนใหญ่ครอบคลุมแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น เงินต้นลดลงไปน้อยนิดกระจิ๊ดริดมาก เหมือนกับคุณจ่ายดอกเบี้ยฟรี ๆ ให้กับธนาคารทุกเดือนไปเรื่อย ๆ ยอดเงินแค่ไม่กี่หมื่นแต่ทำให้คุณต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ ในการชำระคืนหนี้ นี่เราพูดถึงในกรณีที่คุณไม่ใช้บัตรเครดิตสร้างหนี้ใหม่เพิ่มเข้าไปเท่านั้นนะ แต่แน่ล่ะมีบัตรเครดิตอยู่ในมือมีหรือที่คุณจะอดใจไม่ใช้บัตรเครดิตไหว จริงไหมล่ะ?

วิธีที่ได้ผลที่สุดในการหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย ก็คือการชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวนทุกเดือน แต่ถ้าหากคุณไม่มีกำลังมากพออาจจะเลือกชำระเท่าที่สามารถจ่ายได้ โดยต้องจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดอยู่ในบิลเรียกเก็บเงิน เพื่อไปตัดเงินต้นให้ได้มากขึ้น ร่นระยะเวลาในการชำระหนี้ก้อนนั้นให้หมดเร็วขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยเรื้อรัง ที่อาจจะทำให้คุณมีปัญหาทางการเงินได้ในอนาคต

หวังว่าสถานการณ์ที่ไม่ควรใช้บัตรเครดิตที่ MoneyGuru.co.th นำมาเสนอให้คุณผู้อ่านนี้ จะช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเป็นหนี้เป็นสินเรื้อรังโดยใช่เหตุนะคะ และถ้าหากว่าคุณกำลังหาบัตรเครดิตสักใบ เปรียบเทียบรายละเอียดบัตรเครดิตกับเว็บไซต์ของเราสิคะ เรามีเครื่องมือเปรียบเทียบที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วให้บริการฟรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook