ลดเบี้ยประกันรถยนต์ ปี 2017 วีธีไหนเด็ด มาดูกัน !

ลดเบี้ยประกันรถยนต์ ปี 2017 วีธีไหนเด็ด มาดูกัน !

ลดเบี้ยประกันรถยนต์ ปี 2017 วีธีไหนเด็ด มาดูกัน !
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในปี 2017 มีวิธี ลดเบี้ยประกันรถยนต์ เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมายหลายวีธี ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับยุคข้าวยากหมากแพงอย่างในปัจจุบันนี้ จะมีวิธีไหนบ้างที่สามารถช่วยลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ MoneyGuru.co.th ได้รวบรวมมาฝากคุณผู้อ่านแล้วค่ะ

1. ส่วนลดประวัติการขับขี่ดี
เป็นที่รู้กันดีว่า มีข้อบังคับของ คปภ. สำหรับผู้ที่ขับรถดี ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีการเคลมตลอดทั้งปีที่ผ่านมา (หรือมีเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด) จะได้รับส่วนลดประวัติดี หรือในภาษาอังกฤษคือ No Claim Bonus ซึ่งสามารถลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้สูงสุดถึง 50% ในปีที่ต่อไป โดยเป็นลำดับขั้นดังนี้

ขับรถดี 1 ปี ได้รับส่วนลด 20% สำหรับเบี้ยประกันปีต่อไป
ขับรถดีเป็นปีที่ 2 ติดกัน ได้รับส่วนลด 30% สำหรับเบี้ยประกันปีต่อไป
ขับรถดีเป็นปีที่ 3 ติดกัน ได้รับส่วนลด 40% สำหรับเบี้ยประกันปีต่อไป
ขับรถดีตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 50% สำหรับเบี้ยประกันปีต่อไปเรื่อย ๆ
โดยหากเกิดอุบัติเหตุและมีการเคลมเกิดขึ้นแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีจะถูกลดลงทีละขั้น เช่น ในปีนี้คุณได้ส่วนลด 30% แล้วเกิดเหตุขึ้นโดยที่คุณเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีสำหรับเบี้ยปีต่อไปจะถูกปรับลดลงเป็น 20% เป็นต้น แต่หากเกินเหตุรุนแรง หรือมีเหตุติดต่อกันหลายครั้งโดยที่เราเป็นฝ่ายผิด และมีค่าซ่อมสูงกว่าเบี้ยประกัน 200% ก็จะถูกลดค่าเบี้ยประกันในบีต่อไปทีเดียว 2 ลำดับขั้น

2. ระบุชื่อผู้ขับขี่

อีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ได้ นั่นก็คือการระบุชื่อและอายุของผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันให้แก่บริษัทประกันภัย ซึ่งเหมาะกับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่ไม่เกิน 2 คน สามารถลดค่าเบี้ยประกันไปได้สูงสุดมากถึง 20% แล้วแต่ช่วงอายุของผู้ขับขี่ ดังนี้

อายุ 18-24 ปี ส่วนลด 5%
อายุ 25-35 ปี ส่วนลด 10%
อายุ 36-50 ปี ส่วนลด 15%
อายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนลด 20%
วิธีนี้ไม่เหมาะกับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่หลาย ๆ คน เพราะถ้าหากเกิดเหตุแล้วผู้ขับขี่ ณ ที่เกิดเหตุ มีชื่อไม่ตรงกับที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ จะถูกเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก 6,000 บาท สำหรับรถยนต์คันเอาประกัน และ 2,000 สำหรับบุคคลภายนอก

3. กำหนดค่าเสียหายส่วนแรก

หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่มีทักษะในการขับขี่ที่ดี มีความชำนาญในการขับรถยนต์อย่างสูง สามารถทำประกันแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ได้ ซึ่งก็คือค่าใช้จ่ายที่คุณจะต้องจ่ายเองในกรณีที่มีการเคลมเกิดขึ้น โดย คปภ. บังคับเอาไว้ไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนที่เกิน 5,000 บาท บริษัทประกันจึงจะเข้ามารับผิดชอบ วิธีนี้จะช่วยลดเบี้ยประกันไปได้หลายพันบาทเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น ค่าเบี้ยประกันต่อปีราคา 18,000 บาท หากระบุค่าเสียหายส่วนแรก 5,000 บาท ค่าเบี้ยประกันก็จะลดลงเหลือประมาณ 14,000 บาท เป็นต้น โดยเราขอแนะนำว่าหากค่าซ่อมรถต่าง ๆ ไม่ถึง 5,000 บาท อย่าเคลมกับบริษัทประกัน เพราะคุณจะต้องเสียเงิน 5,000 บาทเต็มให้บริษัทประกันภัย

4. เปรียบเทียบก่อนซื้อประกัน

วิธีการในการได้เบี้ยประกันรถยนต์ในราคาถูก ๆ อีกหนึ่งวิธีก็คือการเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง ขนาดของเล็ก ๆ อย่างยาสระผมหรือยาสีฟันเรายังเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อเลย ของราคาแพงอย่างประกันรถยนต์ก็ต้องเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อเช่นกัน เพื่อให้ได้ประกันภัยรถยนต์ที่มีราคาสมเหตุสมผล พร้อมกับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ชีวิตคุณ

ซึ่งการเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ ในปัจจุบันนั้นง่ายแสนจะง่าย เพราะมีเว็บไซต์ให้บริการการเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ให้กับคุณผู้อ่านแล้ว ดังเช่นเว็บไซต์ MoneyGuru.co.th ของเราเป็นต้น ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณผู้อ่าน ไม่ต้องเสียเงินค่าโทรศัพท์โทรไปสอบถาม ไม่ต้องเสียเงินค่าน้ำมันค่าเดินทางไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อสอบถามราคา เพียงคลิ๊กไม่กี่คลิ๊กที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ราคาประกันภัยรถยนต์จาก 40 บริษัทประกันภัยชั้นนำในประเทศไทย ก็จะมาอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว ง่าย สะดวก และรวดเร็วมาก ๆ

5. ลดทุนประกัน

การปรับลดทุนประกันรถยนต์ลงจะช่วยให้ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ต่อปีถูกลงได้ ซึ่งการปรับลดทุนประกันลงนี้ต้องยอมรับว่าจะมีผลกระทบต่อความคุ้มครองที่ลดลงด้วย เพราะโดยปกติทุนประกันจะอยู่ที่ประมาณ 70-80% ของมูลค่ารถยนต์ ถ้าปรับลดลงไปอีกอาจจะส่งผลให้การชดเชยจากบริษัทประกันในกรณีเกิดเหตุเสียหายหนัก เช่น อุบัติเหตุรุนแรง สูญหาย หรือไฟไหม้ ไม่ครอบคลุมหรือไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นได้

6. ติดตั้งกล้องติดรถยนต์

การติดตั้งกล้องติดรถยนต์ไว้บนรถยนต์นั้น สามารถช่วยลดราคาค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไปได้มากถึง 5-10% โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งคุณจะต้องแสดงหลักฐานการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ภายในรถคันเอาประกันให้กับบริษัทประกันภัยเพื่อรับส่วนลด โดยผู้ที่มีกล้องติดตั้งอยู่ในรถยนต์ที่ซื้อประกันภัยไปก่อนวันที่ 3 มีนาคม 2560 สามารถขอรับส่วนลดเบี้ยประกันภัยย้อนกลังกับบริษัทได้ด้วย

การใช้มาตรการนี้ช่วยจูงใจให้คนไทยติดตั้งกล้องในรถยนต์มากขึ้น เพราะเมื่อมีการติดตั้งกล้องแล้วทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์มีความระมัดระวัง และกังวลว่ามีกล้องที่ติดตั้งอยู่กับรถยนต์คันอื่นบันทึกภาพเคลื่อนไหวในการกระทำผิดกฎจราจร ทำให้การขับขี่ทุกครั้งต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นซึ่งสามารถลดอุบัติเหตุทางท้องถนนลงได้ นอกจากนี้ หลักฐานการเกิดอุบัติเหตุที่ถูกบันทึกได้โดยกล้องติดรถยนต์ ยังสามารถช่วยให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย

7. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ลดเบี้ยประกันรถยนต์ ได้

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ได้มีการเริ่มขายประกันรถยนต์ปลอดแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้ถึง 10% ซึ่งโครงการนี้ออกมาเพื่อคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ และคาดหวังว่าจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุลงไป โดยจะเพิ่มเอกสารแนบท้ายมาพร้อมกับกรมธรรม์ประกันภัย มีรายละเอียดว่า สามารถใช้ได้สำหรับประกันรถยนต์ทุกประเภท ซึ่งจะไม่คุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกและไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ หากผู้ขับขี่ขณะที่เกิดอุบัติเหตุมีแอลกอฮอล์ในเลือด (เว้นแต่ว่าการมีแอลกอฮอล์ในเลือดนั้นเกิดจากการรับประทานยาบางชนิด แต่จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไว้ไม่เกินกว่า 10 มก.)

นั่นหมายความว่า ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถคันเอาประกันที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดขณะที่เกิดเหตุ จะต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อบุคคลภายนอกเอง โดยบริษัทจะจ่ายค่าสินไหมแก่บุคคลภายนอกไปก่อน แล้วจะเรียกเก็บกับผู้ขับขี่ในภายหลัง โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายคืนให้กับบริษัทประกันภัยภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากบริษัท แต่ประกันภัยรถยนต์ชนิดนี้ก็มีข้อยกเว้นเช่นกันคือ หากเกิดเหตุแล้วผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ตามปกติ แม้จะมีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิด 10 มก. ก็ตาม

จะเห็นได้ว่าในปี 2017 นี้ มีวิธีการประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์เพิ่มขึ้นมาถึง 2 วิธี นั่นคือ การติดตั้งกล้องติดรถยนต์ และประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ คาดว่าอาจจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนบ้านเราไปได้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook