ปีหน้าใช้แน่! ภาษีบ้านและที่ดิน เริ่มต้นเก็บจากบ้านราคา 50 ล้าน

ปีหน้าใช้แน่! ภาษีบ้านและที่ดิน เริ่มต้นเก็บจากบ้านราคา 50 ล้าน

ปีหน้าใช้แน่! ภาษีบ้านและที่ดิน เริ่มต้นเก็บจากบ้านราคา 50 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ครม." ไฟเขียว พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังผ่านการปรับแก้จัดเก็บภาษีที่ดินรกร้างจาก 5% เป็นไม่เกิน 2% แต่จะปรับเพิ่มขึ้น 0.5% ทุกๆ 3 ปี จาก กฤษฎีกา คาดสนช.ผ่านใน 2-3 เดือน ก่อนบังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 1 ปี

เมื่อวานนี้(21 มี.ค.60 ) ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยได้มีการปรับปรุงร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินรกร้าง

สำหรับสาระสำคัญของร่างดังกล่าวนั้น ได้มีการแก้อัตราเพดานที่ดินรกร้างจากเดิม 5% เป็นเพดานไม่เกิน 2% ของฐานภาษี และจัดเก็บเพิ่มขึ้น 0.5% ทุก 3 ปี แต่ไม่เกิน 5%

ในส่วนของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน 0.2% ของฐานภาษี ซึ่งต้องเป็นการใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมนั้น โดยต้องเป็นการทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกำหนด

ด้านที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่อยู่อาศัย ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน 0.5% ของฐานภาษี ด้านที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจากดังกล่าวนั้น ให้มีอัตราภาษีไม่เกิน 2% ของฐานภาษี

ส่วนการคำนวณภาษีนั้น ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณไม่เกิน 50 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้ออกพระราชกฤษฎีกา เพื่อเป็นช่องทางการขอลดหย่อนภาษีได้ 90% จากอัตราฐานภาษี กรณีที่มีบ้านพักอาศัยอยู่มาเป็นระยะเวลานานแต่ราคาที่ดินปรับเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเจ้าของบ้านมีรายได้ไม่มาก รวมทั้งกำหนดข้อบังคับห้ามขายห้ามโอนหากติดหนี้ภาระภาษี ยกเว้นกรณีขายทอดตลาด

สำหรับขั้นตอนต่อไปจะส่งร่างกฎหมาบไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาการพิจารณาประมาณ 2-3 เดือน และจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 1 ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook