สูตรออมเงินก่อนรวยกว่า ควรจะมีสัดส่วนกี่ % ดีที่สุด

สูตรออมเงินก่อนรวยกว่า ควรจะมีสัดส่วนกี่ % ดีที่สุด

สูตรออมเงินก่อนรวยกว่า ควรจะมีสัดส่วนกี่ % ดีที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้นเดือนมักจะเป็นช่วงที่กระเป๋าสตางค์แฮปปี้มากที่สุด เม็ดเงินจะเต็มหน่วย เพียงพอต่อการใช้สอย หลายคนจะซื้อของที่ถูกใจ ของที่หมายตา อย่างเพลิดเพลิน จนกระเป๋าแฟบหรือหลายคนก็ต้องเจียดเงินมาผ่อนชำระค่างวด ค่าบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ แทนที่จะเรียกวันรับเงิน มันจะควบรวมกับวันจ่ายเงินไปด้วยอย่างง่ายดาย พอผ่านไปกลางเดือน หลายคนต้องช้ำใจ เพราะเงินไม่พอใช้หรือไม่เหลือใช้เลยก็มี เรื่องนี้มีให้เห็นบ่อยนัก ไม่พอใช้ยังไม่เท่าเมื่อถึงสถานการณ์ฉุกเฉินเงินไม่พอจ่ายจะถอนก็ดันไม่มีเงินออม เรามาเปลี่ยนวิถีการเก็บและใช้เงินเพื่อความสุขในอนาคตกันดีกว่า

 

สูตรแรก เปลี่ยนนิสัย ให้หักยอดเงินฝากออกก่อนอันดับแรก  ทุกครั้งที่เงินเดือนออก อย่างน้อย 20% ของเงินเดือน แต่ที่อยากจะแนะนำจริง ๆ คือ 30% ของเงินเดือน หากทำได้มันจะสุดยอดมาก เช่น เงินเดือนสุทธิหลังบริษัทหักค่าต่าง ๆ เหลือ 12,000 บาท ให้ออมเงิน 30% จะเท่ากับ 4,000 บาทต่อเดือน ก็ถือว่ากำลังดี หลังจากนั้นค่อยมาหัก ค่าใช้จ่ายประจำเดือน อย่าง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่ารถ และค่ากินต่อเดือน เชื่อได้ว่ายังคงจะเหลือเงินส่วนต่างอีกนิดหน่อยที่ช่วยให้คุณพอจะมีเงินเอาไว้ซื้อของ ให้รางวัลตัวเองอยู่บ้าง

 

ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำทุกอย่างเป็นระบบ และอยากจะฝึกวินัยในการออมให้กับตัวเอง เพียงตัดบัญชีเงินเดือนโอนเงินออกไปเก็บเอาไว้ตามส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่กำหนดเอาไว้ก็เพียงพอแล้ว หากจะใช้วิธีนี้อย่าลืมวางแผนรายจ่ายแต่ละส่วนของเดือนให้ชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายตัวใดบ้าง แล้วเราจะได้ซองเงินสามซอง คือ ซองเงินออม ซองเงินค่าใช้จ่าย และซองเงินใช้รายวันต่อเดือน

 

เมื่อเราได้รับเงินเดือนแล้ว ควรทำการแบ่งเงินเข้าซองทั้งสามทันที  ตามสัดส่วนที่เราได้ประมาณเอาไว้ อย่าลอกแบบใคร ให้ประเมินตามความเป็นจริงของวิถีชีวิต การใช้จ่ายของตนเอง บางทีคุณอาจจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่านี้ก็สามารถออมเงินมากกว่า 30% ได้ไม่ยาก สัดส่วนของเงินในซองทั้งสามที่ควรจะเป็นมีดังนี้ สัดส่วนของเงินออมขั้นต่ำ 30% สัดส่วนค่าใช้จ่ายประจำเดือนไม่เกิน 45% สัดส่วนของค่าใช้จ่ายตามจริงในชีวิตประจำวันไม่เกิน 25% ซึ่งหากทำได้คุณจะมีเงินออมมากพอที่จะนำไปต่อยอดลงทุนในธุรกิจเล็ก ๆ เพื่อสร้างรายได้เสริมหรือลงทุนในหุ้นเพื่อกินเงินปันผลขนาดย่อม ๆ ตามไปด้วย

 

ในช่วงแรกของเงินเดือนออก มีอุปนิสัยต้องห้ามที่คุณควรปฏิบัติ  คือ เมื่อเริ่มต้นมีรายรับเข้ามา ห้ามกดเงินไปใช้ทันทีอย่างเพลินมือ  คุณสามารถเริ่มใช้เงินได้หลังจากที่หักเงินเข้าซองทั้งสามเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น (ประกอบด้วยซองค่าใช้จ่าย ซองเงินออมและซองค่าใช้จ่ายรายวัน) จากนั้นหากต้องการซื้อของจำเป็นให้ใช้เงินที่เหลือจากส่วนที่หักแล้วเท่านั้น เช่น

 

 12,000 หักซองค่าใช้จ่าย 4,000 หักซองเงินออม 4,000 หักซองใช้รายวัน 3,000 บาท คุณจะเหลือซื้อของจุกจิกอีกตั้ง 1,000 บาท แบบไม่กระทบกับวินัยในการออมเงินด้วย  วิธีนี้ช่วยให้สามารถใช้เงินได้มีประสิทธิภาพตลอดทั้งเดือนและพอใช้จนถึงสิ้นเดือน  อย่างไม่ต้องไม่กู้หนี้ยืมสินใครมาใช้

 

นอกจากนี้ อุปนิสัยในการรักการออมก็ควรปฏิบัติ  โดยคุณต้องเริ่มที่จะนำเงินฝากอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผัดวันประกันพรุ่งและมีวินัยในการหักห้ามใจไม่ให้ถอนออกมาใช้ ก่อนเวลาที่สมควร กล่าวคือ ยามมีเหตุฉุกเฉิน สุดวิสัยจริง ๆ จึงสมควรแก่การถอนเอามาใช้ หากไม่มีการสมควรจะไม่ถอนเงินเด็ดขาดหรือเมื่อผ่านไปสักระยะ เงินออมเริ่มมีมาก จะนำไปต่อทุนในการซื้อหุ้น เล่นหุ้น รับเงินปันผล ก็สามารถถอนออกมาได้ แต่คุณควรศึกษาพื้นฐานการเล่นหุ้นให้เชี่ยวชาญ ชำนาญเสียก่อน

 

ในการออมเงินนั้น คุณสามารถแบ่งออกเป็น 2 บัญชีก็ได้ คือ บัญชีเงินฝากประจำกับบัญชีออมทรัพย์ โดยอาจจะแบ่งสัดส่วนของทั้ง 2 บัญชี ออกเป็นครึ่งต่อครึ่ง คือ นำฝากเงินเข้าทั้งสองบัญชีด้วยสัดส่วน 15% ของรายได้ ก็จะเท่ากับคุณได้ออมเงินครบทั้ง 30%  สาเหตุก็เพราะการฝากออมทรัพย์นั้นช่วยให้คุณมีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน สามารถถอนได้ทันท่วงทีในเวลาที่เร่งรีบ แต่ในขณะเดียวกันนั้นการฝากประจำก็ช่วยให้คุณมีเงินเก็บไว้เพื่อลงทุนเติบโตรวดเร็ว เนื่องจากเงินฝากประเภทนี้ มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ อีกทั้งยังมีการกำจัดการเบิกใช้ ทำให้คุณบังคับตัวเองในการถอนเงินได้ในตัว ที่สำคัญบัญชีนี้สามารถผลิดอกออกผลให้คุณนำไปลงทุนในกลุ่มพวก หุ้นเงินปันผลสูง หุ้นกู้ผลตอบแทนสูง ๆ ได้อีกด้วย

 

เทคนิคสำคัญในการแบ่งเงินใช้ คนส่วนใหญ่ มองข้ามส่วนนี้ แล้วใส่เงินในกระเป๋าไว้จำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณการใช้เงินของตนเองได้ เมื่อยังเห็นเงินในกระเป๋าก็ยังคงซื้อของต่อเนื่องไป แต่หากเราแบ่งเงินใช้ต่อวันไว้ในกระเป๋าแค่ไม่เกินวันละ 200 บาท เมื่อคุณเริ่มใช้และรับเงินทอน คุณจะสังเกตเห็น สมองจะเกิดกระบวนการคิดและหักห้ามใจ ให้ใช้เงินอย่างระมัดระวังเพียงพอที่จะเหลือค่ารถกลับบ้านได้ เงินต่อวันของคุณอาจจะเหลือมาหยอดกระปุกเพิ่มเติมอีกก็ได้ ดังนั้น วิธีที่พกเงินติดกระเป๋า ในปริมาณเท่า ๆ กันต่อวันนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและไม่ก่อหนี้ให้คุณอย่างแน่นอน

 

ชีวิตของคุณจะปลอดภัย การเงินจะคล่องตัวมากขึ้น หากคุณเริ่มต้นออมเงินตั้งแต่วันนี้ อย่างสุขุมและมีวินัยทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่นานคุณจะเคยชินกับอุปนิสัยการแบ่งเงินออกเป็นสามส่วนและพอคุณย้อนกลับมาดูเงินในบัญชีฝากธนาคาร คุณจะประทับใจและพึงพอใจในตัวเองอย่างมากที่สุด

 

 สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook