เงินเดือนเท่าไหร่ ถึงจะอยู่รอดในสังคมเงินเฟ้อ

เงินเดือนเท่าไหร่ ถึงจะอยู่รอดในสังคมเงินเฟ้อ

เงินเดือนเท่าไหร่ ถึงจะอยู่รอดในสังคมเงินเฟ้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เงินเฟ้อ คืออะไร และมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราแค่ไหน หลายคนเคยได้ยินข่าวเรื่องภาวะเงินเฟ้อ แต่ยังหาความเชื่อมโยงกับชีวิตไม่เจอ และคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะเงินที่มีอยู่ในมือก็ยังเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงละเลยไป แต่แท้ที่จริงแล้วเงินเฟ้อเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด และส่งผลต่อเงินในกระเป๋าของเราโดยตรง แท้จริงแล้วเงินเฟ้อเป็นอย่างไร และส่งผลกระทบกับเรายังไงมาดูกัน

เงินเฟ้อ คืออะไร?
เงินเฟ้อเป็นคำที่เราได้ยินบ่อยๆเวลาที่เราดูข่าวเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้ออธิบายให้เข้าใจแบบง่ายๆก็คือ การที่เงินมีค่าลดลง หมายความว่า เงินที่เรามีอยู่ในมือ จะมีกำลังซื้อลดลงไปตามกาลเวลา ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เงินจำนวน 400 บาท เคยซื้อทองได้ 1 บาททองคำ เมื่อ 40-50 ปีก่อน แต่ในปัจจุบัน เงิน 400 ไม่มีกำลังพอที่จะซื้อทองถึง 1 บาททองคำอีกต่อไป นั่นเพราะเงินมีค่าลดลงนั่นเอง


แล้วทำไม เงินเฟ้อ ถึงเกิดขึ้นล่ะ?

เคยสงสัยกันบ้างมั้ย ว่าข้าวแกงจานหนึ่งที่เราเคยกินสมัยเด็ก ที่ซื้อได้ในราคาแค่ 10 บาทนั้น ปัจจุบันมีราคาอย่างน้อยๆก็ 30 บาทเข้าไปแล้ว ข้าวแกงจะยังขายในราคา 10 บาทไม่ได้เหรอ? เหตุที่เกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นในโลกนี้ก็เพราะ ความต้องการ และกำลังซื้อนั่นเอง พูดง่ายๆว่า เมื่อประชากรในโลกนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการในสิ่งต่างๆ ทั้งข้าวปลาอาหาร สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ทรัพยากรต่างๆ มีจำนวนเท่าเดิม ด้วยเหตุนี้จำนวนเงินเท่าเดิมจึงไม่สามารถซื้อสิ่งที่เคยซื้อได้อีกต่อไป เนื่องจากความต้องการในสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น ข้าวของจึงมาราคาแพงขึ้นนั่นเอง


อัตรา เงินเฟ้อ ในปัจจุบันเป็นเท่าไหร่กัน?

ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อ ตามประกาศ ธปท. อยู่ที่ 2.5+1.5% พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ในแต่ละปี ข้าวของจะมีราคาแพงขึ้น 1-4% หรือกล่าวได้อีกอย่างว่า เงินจะมีค่าลดลงในช่วงอัตราดังกล่าว นั่นหมายความว่า เงินที่เรามีอยู่ในมือ 100 บาท จะมีกำลังซื้อลดลงไปเรื่อยๆ ปีละ 2.5 บาท 10 ปีก็ 25 บาท 20 ปีก็ 50 บาท (คิดเป็นตัวเลขคร่าวๆ ไม่รวมถึงปัจจัยอื่นที่มากระทบ) หมายความว่าเงิน 100 บาทที่เรามีอยู่ในมือ ในอีกราว 20 ปีข้างหน้า จะมีกำลังซื้อเพียงครึ่งหนึ่งของปัจจุบัน นั่นเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมข้าวแกงที่เราเคยกินตอนเด็กในราคาเพียง 10 บาท ปัจจุบันถึงมีราคา 30 บาทเป็นอย่างต่ำ ก็เนื่องจากเงินเฟ้อ ทำให้มูลค่าของเงินลดลง หรืออีกนัยน์หนึ่งก็คือ เราต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้อของสิ่งเดิม ในปริมาณเท่าเดิมนั่นเอง


แล้วเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะอยู่รอดในสังคม เงินเฟ้อ ล่ะ?

แม้อัตราเงินเฟ้ออย่างอ่อนจะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากทำให้เศรษฐกิจขยายตัว แต่เมื่อข้าวของต่างๆมีราคาแพงขึ้น แล้วเราต้องมีเงินเท่าไหร่ล่ะถึงจะอยู่ได้ ข้อนี้ตอบได้ง่ายๆอีกเช่นกันว่า รายได้ของคุณก็ควรจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 2.5% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับอัตราเงินเฟ้ออย่างไรล่ะ เพียงเพื่อให้เงินที่คุณมีอยู่ในมือมีกำลังซื้อเท่าเดิม เนื่องจากการที่ค่าของเงินลดลง หากจะมีกำลังจ่ายเท่าเดิม ก็จะต้องมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน เพราะฉะนั้น หากรายได้ของคุณไม่เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ ก็หมายความว่าคุณจนลงเรื่อยๆ และมีกำลังซื้อหาจับจ่ายข้าวของต่างๆน้อยลงเรื่อยๆเช่นกัน

ทั้งนี้หากรายได้ในปัจจุบันของคุณพอจับจ่ายใช้สอยแบบเดือนชนเดือน ในแต่ละปีคุณควรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นดังที่ได้กล่าวมา เพื่อให้รายได้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยไม่นับความต้องการอื่นๆที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีครอบครัว ค่าเล่าเรียนลูก ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ เป็นต้น


เห็นแล้วหรือไม่ว่าเงินเฟ้อนั้นมีผลกระทบโดยตรงกับชีวิตของเรามากกว่าที่คิด แม้ในปัจจุบัน เราจะมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไป อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น จะทำให้เงินที่เรามีอยู่ในมือเสื่อมมูลค่าลงอย่างหลีกเลียงไม่ได้ ฉะนั้นหากเราไม่เร่งสร้างรายได้ หรือสร้างผลตอบแทนจากเงินต้นในอัตราที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ในอนาคตเราจะจนลงเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อเงินในมือที่เคยมีอยู่ในจำนวนเท่าเดิม ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายอีกต่อไป

Advertorial

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook