วิธีหลีกเลี่ยง 4 กับดักชีวิต กับดักการเงิน

วิธีหลีกเลี่ยง 4 กับดักชีวิต กับดักการเงิน

วิธีหลีกเลี่ยง 4 กับดักชีวิต กับดักการเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยรู้สึกไหมคะว่า เราทำงานหนักมาตลอดชีวิต แล้วทำไมถึงยังไปไม่ถึงไหนเสียที ความสุขที่คิดว่าจะได้จากการทำงาน จากความสำเร็จในหน้าที่การงานก็เหมือนเป็นแค่ความฝัน รู้สึกชีวิตขาดสีสัน ขาดแรงบันดาลใจ 

เราอาจเป็นคนหนึ่งที่กำลังติด กับดักชีวิต อยู่ก็ได้นะคะ ในที่นี้ กับดักชีวิต คือสิ่งที่เราคิดหรือกระทำซึ่งกำลังทำลายตัวเราเองอย่างช้าๆ โดยเราอาจจะไม่รู้ตัว ดังนี้ค่ะ


1 คิดแต่เรื่องงาน เรื่องเงิน
ทำงานหามรุ่งหามค่ำ หายใจเข้าเป็นงาน หายใจออกเป็นเงิน ตื่นแต่เช้าเช็คอีเมล เพื่อตามติดทุกอย่างของการทำงาน ด้วยความคิดแบบทุนนิยมที่ว่า อยากหาเงินให้ได้เยอะๆ ถ้ารวยแล้วจะมีความสุข


แต่ก่อนที่จะถึงจุดที่เรามีเงินมั่งคั่ง ทุกวันนี้ที่ทำงานเยอะๆ จนแทบไม่มีเวลาให้กับตัวเอง เรามีความสุขจริงๆ หรือ? แล้วครอบครัวของเรา คนที่เรารักล่ะ ช่วงนี้เขาบ่นๆ ว่าไม่ค่อยได้เห็นหน้าเราหรือเปล่า? พรุ่งนี้ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น แต่การไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารัก เป็นช่วงเวลาที่เราไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้


ฉะนั้นลองหยุดคิดสักนิดนะคะว่า เราควรจะปรับเปลี่ยนการใช้เวลาของเราบ้างสักหน่อยดีไหม เวลางานก็คือเวลาสำหรับการทำงาน ส่วนเวลาหลังเลิกงาน วันหยุด พักจากงานแล้วหันมาใช้เวลาไปกับคนที่เรารัก เอ็นจอยสิ่งรอบตัว หาความเพลิดเพลินให้ชีวิตบ้างดีกว่าค่ะ


2 คิดถึงแต่ข้อผิดพลาดในอดีต
การจมอยู่กับความผิดพลาดในอดีตไม่สามารถช่วยอะไรเราได้นะคะ เพราะมันแต่ตอกย้ำเรื่องเก่าๆ ความผิดพลาด จำไว้เป็นบทเรียนจะได้ไม่ทำอีก แล้วปล่อยผ่านไปดีกว่าค่ะ อย่างนี้สิชีวิตจะได้ดีขึ้น!


นอกจากนี้ยังมีคนประเภทที่คอยย้ำถึงข้อผิดพลาดของคนอื่น จริงๆ แล้วคนที่เขาทำอะไรผิดพลาดเขาก็รู้สึกแย่พอแล้ว เราไม่ต้องไปคอยตอกย้ำให้เขาช้ำใจกว่าเดิมหรอกค่ะ ถ้าจะให้ดีเอาข้อผิดพลาดของเขานี่แหละมาใช้กับตัวเองเลย สิ่งที่เขาทำแล้วไม่ดี ผิดพลาด เราก็อย่าไปทำแบบนั้น เป็นการได้รับบทเรียนทางอ้อมไปในตัวเลยค่ะ


3 ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
วันเวลายังเดินหน้าไปเรื่อยๆ โลกเราก็เปลี่ยนไปทุกวัน ชีวิตคนเราเองก็เหมือนกันค่ะ เราต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่บางคนยังใช้ชีวิตแบบกลัวการเปลี่ยนแปลงจนไม่กล้าทำอะไรให้ชีวิตตัวเองก้าวหน้าขึ้น


หากเรารู้ตัวว่าควรจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว เช่น รู้ว่าตัวเองน้ำหนักเกิน จนมีปัญหาสุขภาพ แบบนี้ก็ควรเปลี่ยนแปลง มีความรู้ใหม่ๆ เข้ามาในสายงานที่เราทำ เราก็ควรไปเสาะหาเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้ทันโลก เป็นต้นค่ะ


4 แคร์สังคมมากเสีย จนเป็นหนี้
ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ด้วยระบบการศึกษาที่สอนให้เราเป็นลูกจ้าง เด็กจบใหม่ก็จบออกมาเป็นลูกจ้างกัน พอทำงานได้ไม่นาน หาเงินได้ไม่เท่าไร ก็รู้สึกคันไม้คันมืออยากใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็น คอมเครื่องใหม่ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เงินไม่พอซื้อก็ผ่อน เห็นคนอื่นมีรถขับ ก็ไปดาวน์รถมาขับบ้าง สะดวกดี ใครมีอะไรก็อยากมีเหมือนคนอื่นเขาบ้าง


สิ่งที่ตามมาก็คือค่าใช้จ่ายที่แทบจะกองเหนือหัว การใช้ชีวิตแบบ เงินไม่พอก็ไปพึ่งบัตรเครดิตเป็นวิธีการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องนะคะ เพราะเท่ากับว่าเราขยันก่อหนี้ให้ตัวเอง หากไม่ระวังต่อไปจะกลายเป็นหนี้พอกพูนทบต้นทบดอก ด้วยความที่เราเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ เงินเดือนก็อาจจะยังไม่เยอะ ทำให้เราต้องมานั่งปวดหัวเงินใช้เดือนไม่ชนเดือนอีกค่ะ

เราควรอดทนกับกิเลสและความอยากได้อยากมีแบบนี้นะคะ โดยเฉพาะความต้องการตามกระแสสังคม ประหยัดเถอะค่ะ อะไรไม่จำเป็นก็ไม่ต้องดิ้นรนหามาใช้ ออมไว้หรือเอาไปลงทุนต่อยอดยังดีกว่าค่ะ


กับดักชีวิตเหล่านี้ จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่สามารถรั้งเราไว้ไม่ให้เจอกับความก้าวหน้า และความสุขในชีวิตได้ การทำงานเพื่อหาเงินเป็นสิ่งจำเป็น แต่ความสุขในชีวิตไม่ได้มาจากการมีเงินแต่อย่างเดียว


นอกจากนี้ เราควรจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตัวเองเมื่อเรารู้แน่ชัดว่าควรทำอะไรชีวิตจึงจะดีขึ้น และไม่ควรจมกับข้อผิดพลาดจากอดีต แต่ควรหาทางเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก และสุดท้าย ความสุขที่แท้จริงของชีวิตเรา อาจไม่ได้อยู่ที่การมีรถ มีกระเป๋าแพงๆ ใช้ไว้อวดคนอื่นก็ได้ ความสุขของเรา อยู่ที่ว่าเราพึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่นั่นเองค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook