จัดสรรเงินเดือน ให้ลงตัว เพื่อคุณภาพของชีวิตการสร้างคุณ

ภาพชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น ทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของตัวเองดูสดใส ทำให้ตัวเองได้กินอาหารที่ดีขึ้น มียารักษาโรคที่ดีขึ้นและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านั้นจำเป็นต้องใช้เงินนะ แล้วเงินที่เราได้มาโดยส่วนใหญ่ก็คือเงินเดือนจากงานที่ทำในแต่ละเดือน ยิ่งเราได้มากคุณภาพชีวิตของเราก็อาจจะดีขึ้นมากเพราะว่ามีเงินในการซื้อสิ่งของต่างๆ แต่ถ้าใครที่มีเงินเดือนที่น้อย ก็ต้องพยายามมากหน่อยกว่าจะสร้างคุณภาพชีวิตให้ตัวเอง ดังนั้นแล้วเงินคือปัจจัยสำคัญอย่างมากในการสร้างคุณภาพให้ชีวิตแต่เงินก็ไม่ใช่ทุกอย่างเสมอไปนะ

เงินเดือนที่ได้รับมานี้ หลายๆครอบครัวก็มักจะตั้งเป้า วางแผนไว้ว่าหลังจากที่ได้เงินเดือนมา จะเอาไปใช้ทำอะไรหรือจะเก็บไว้เพื่อซื้ออะไร ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากเราเผลอใช้โดยที่ไม่ได้วางแผนก่อน รับรองได้เลยว่าเดือนนั้นเราอาจจะติดลบหรือถ้าหากใครใช้โดยที่ไม่ทันระวังตัว เวลาที่เกิดเรื่องอะไรที่ขึ้นที่ต้องใช้เงินก็ทำให้เราต้องนำเงินเก็บที่เราเก็บไว้ ออกมาใช้ก็ได้นะ ดังนั้นแล้วเงินในแต่ละเดือนที่เราได้มายังไม่ควรที่จะนำไปใช้ในทันทีเลยหรอก

การวางแผนและจัดสรรให้เงินที่เราได้มาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากเลยล่ะ เพราะว่าสัดส่วนเงินที่เราจัดไว้นี้จะสามารถสร้างคุณภาพชีวิตได้อย่างมากเลยและที่สำคัญ ถึงแม้ว่าเราจะได้เงินเดือนที่น้อยก็จริงแต่ถ้าเราจัดสรรสัดส่วนเงินดีๆ เราก็มีคุณภาพชีวิตที่เทียบเท่ากับเงินที่ได้เงินเดือนมากกว่าเราเลยนะ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่องค์ประกอบอื่นๆด้วยล่ะที่นอกจากเงิน การจัดสรรสัดส่วนเงินต่างๆจำเป็นต้องใช้ระเบียบวินัยอย่างมากเลยล่ะ เพราะว่าเราห้ามนำเงินคนละส่วนมาใช้ร่วมกันหรือแทนกัน อย่างเช่นถ้าเราจัดเงินส่วนนี้เป็นของค่าน้ำแต่ว่ามันไม่พอ เราก็ไม่ควรที่จะนำเงินในส่วนของค่าไฟมาจ่ายนะ อาจจะนำเงินในส่วนสำรองฉุกเฉินมาใช้แทน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเรามีเคล็ดลับง่ายๆในการจัดสรรเงินดังนี้

จัดสรรสัดส่วนเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นคือค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายทุกๆเดือนนะ แต่จะจ่ายมากหรือจ่ายน้อยก็ขึ้นอยู่กับอีกเรื่องหนึ่ง อย่างเช่นค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตประจำบ้านและค่าอื่นๆที่เราจำเป็นต้องจ่าย ซึ่งเงินในสัดส่วนนี้เราสามารถคำนวณได้ง่าย โดยคำนวณจากเดือนที่ผ่านๆมาว่าเราจ่ายค่าน้ำไปเท่าไหร่ จ่ายค่าไฟไปเท่าไหร่ จ่ายค่าเน็ตไปเท่าไหร่ จ่ายค่ากินไปเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วเราก็จะสามารถวิเคราะห์ได้ทันทีเลยว่าเดือนนี้จะใช้จ่ายเท่าไหร่กับเงินในส่วนนี้ แต่ก็อย่าลืมสำรองเงินไว้ให้กับส่วนนี้ด้วยล่ะ

จัดสรรสัดส่วนเงินในหนึ่งวันของเรา

ในหนึ่งวัน เราใช้เงินประมาณเท่าไหร่กันล่ะ แน่นอนว่าถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถบอกได้ว่าในแต่ละวันเราใช้จ่ายมากขนาดไหน แต่มันก็ไม่ยากเลยที่เราจะเดา หลังจากนั้นเราก็มาคำนวณดูว่าในหนึ่งเดือนเราจะใช้จ่ายเท่าไหร่ ซึ่งเงินในส่วนนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเหลือนิดหน่อยเพราะบางวันเราก็ใช้เยอะ บางวันเราก็ใช้จ่ายน้อย ก็เฉลี่ยๆกันไปแต่พอครบวันสุดท้ายของเดือนแล้ว เราก็มีเงินเหลือติดกระเป๋านิดหน่อยนะแต่ถ้าใครเผลอจัดหนักระหว่างเดือนก่อน ก็อาจจะทำให้เงินเหลือไม่ถึงสิ้นเดือน

จัดสรรสัดส่วนเงินสำหรับหนี้สิน

การมีหนี้สิน เรารู้ดีว่ามันไม่ดีสักเท่าไหร่แต่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่เราจะซื้อของด้วยเงินสดหรือว่าเราจะไม่มีหนี้สิน สินค้าต่างๆที่มีราคาแพง เราทุกคนก็เลือกที่จะซื้อแบบผ่านกันทั้งนั้นแหละเว้นเสียแต่ใครที่สะสมเงินจนมีกำลังทรัพย์มากพอที่สามารถซื้อเงินสดได้ การมีหนี้สินจะทำให้เราเสียเงินที่ไม่จำเป็นต้องเสียไปมากพอดูเลยล่ะ อย่างเช่นดอกเบี้ย ซึ่งแน่นอนว่าดอกเบี้ยในเรื่องของหนี้สินมันไม่น้อยเลยล่ะ และเงินที่เราส่งไปทุกเดือนก็ต้องหักดอกเบี้ยก่อนที่จะหักเงินต้น ยิ่งใครส่งน้อยๆผ่อนนานๆ เสียดอกเบี้ยเยอะมากเลยล่ะ ดังนั้นแล้วเงินในส่วนนี้นั้นเราควรที่จะจัดไว้ให้มากๆหน่อยเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะ เพื่อที่เราจะได้ผ่านในเวลาไม่นาน

จัดสรรสัดส่วนสำหรับเงินเก็บ

เงินเก็บของเรามาจากเงินเดือนของเราทั้งเดือนหักออกจากค่าใช้จ่ายต่างๆ หักออกจากเงินต่างๆที่เราจัดสรรสัดส่วนไว้แล้วนะ จะเหลือเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนของครอบครัวว่าจะจัดสรรสัดส่วนเงินยังไง ซึ่งถ้าหากเราต้องการให้เงินในส่วนของเงินเก็บเยอะ เราก็คือที่จะลดค่าใช้จ่ายอื่นๆลง และถ้าเราสามารถใช้หนี้ที่เรามีอยู่จนหมดได้เมื่อไหร่ เราก็จะมีเงินเก็บที่มากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยล่ะ เงินเก็บสามารถเอาไปทำอะไรได้หลายอย่างนะ แต่อาจจะทำให้ใครหลายๆคนรู้สึกเกิดอาการอยากจะซื้อของที่ต้องมีการผ่อนอีกครั้ง ถ้ามันจำเป็นที่ต้องซื้อด้วยเงินผ่อนก็ถือว่าสมควรซื้อ แต่ถ้าซื้อของที่ไม่จำเป็น รับรองได้เลยว่าคุณภาพชีวิตของเราจะดีขึ้นกว่านี้ยากแน่นอน

Advertorial

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub