กบง.ลอยตัวNGVคุม 6 ด. ไม่เกิน13.50บ. รีดเข้ากองทุน60สต.

กบง.ลอยตัวNGVคุม 6 ด. ไม่เกิน13.50บ. รีดเข้ากองทุน60สต.

กบง.ลอยตัวNGVคุม 6 ด. ไม่เกิน13.50บ. รีดเข้ากองทุน60สต.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติ กบง. ลอยตัวราคาก๊าซ NGV คุม 6 เดือน ราคาไม่เกิน 13.50 บาทต่อกิโลกรัม ยืดอุดหนุนรถสาธารณะต่อเนื่อง จนกว่าจะมีกลไกถาวร ขณะรีดเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วน เบนซิน 95 E10 และดีเซล 60 สต.ต่อลิตร

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน  (สนพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. มีมติให้ลอยตัวราคาก๊าซเอ็นจีวีแบบมีเงื่อนไขโดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 21 มกราคม 2559 โดยมอบหมายให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกันราคาเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่มกราคม - กรกฎาคม 2559 หากเดือนใดราคาเนื้อก๊าซเกินกว่า 13.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้ ปตท. เป็นผู้รับภาระส่วนเกิน ซึ่งการประกาศลอยตัว NGV ในครั้งนี้เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาเนื้อก๊าซเอ็นจีวีในตลาดโลกมีทิศทางปรับลดลงต่อเนื่อง ภายใต้ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับ 30 - 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จึงใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้าง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการลงทุนเชื่อมต่อสถานีท่อก๊าซ NGV ของ ปตท. จากเอกชนรายอื่นเพิ่มขึ้น และอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ขณะที่ราคา NGV สำหรับรถโดยสารสาธาณะ ปตท. จะช่วยเหลือกำกับดูแลราคา NGV ไม่เกิน 10 บาทต่อกิโลกรัมต่อไปจนกว่าจะมีกลไกถาวร ทั้งนี้ จะสามารถเห็นสูตรราคาเนื้อก๊าซใหม่ได้ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ และคาดว่าราคา NGV เดือนมีนาคมจะสามารถปรับลดลงได้ ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาลง 

นายทวารัฐ ยังเผยเปิดว่า จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่อง และค่าการตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูง ที่ประชุม กบง. จึงมีมติปรับขึ้นอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่ม 60 สตางค์ต่อลิตร สำหรับน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮฮล์ 95 แก๊สโซฮอล์ 91 และน้ำมันดีเซล โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันแต่ละประเภท และทำให้จากนี้ส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างแก๊สโซฮฮล์ 95 แก๊สโซฮอล์ 91 และ E20 จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3 บาทต่อลิตร จากเดิมที่ 2.40 บาทต่อลิตร โดยการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอัตราใหม่ ในส่วนของน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 6.75 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล 95 อยู่ที่ 0.65 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 0.60 สตางค์ต่อลิตร ดีเซล จัดเก็บเข้ากองทุน 0.58 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนเพิ่มขึ้น 1,152 ล้านบาทต่อเดือน โดยสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดเป็นบวกอยู่ที่ 42,225 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนน้ำมันที่ 34,944 หมื่นล้านบาท และกองทุนก๊าซ LPG อยู่ที่ 7,281 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook