5 สิ่งที่ไม่ควรได้เงินของคุณอีกต่อไป

5 สิ่งที่ไม่ควรได้เงินของคุณอีกต่อไป

5 สิ่งที่ไม่ควรได้เงินของคุณอีกต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ เงินหาได้ยากขึ้นทุกวัน ทุกคนประหยัดการค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เงินเดือนขึ้น โบนัสสิ้นปีก็ลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าจะได้กี่เดือน (หรือไม่ได้เลย) เพราะบริษัทมีผลประกอบการไม่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจขาลงในช่วงนี้ แต่หากคุณยังไม่มีแผนการว่าควรตัดค่าใช้จ่ายในส่วนใดออกไปบ้าง วันนี้ MoneyGuru.co.th มีคำแนะนำเบื้องต้นกับสิ่งที่คุณควรหยุดเสียเงินให้กับมัน มาฝากกันครับ


1. ช็อปปิ้งเพราะได้รับการโน้มน้าว
เวลาออกไปเดินตามถนน หรือตามห้างร้าน คุณจะได้เห็นโฆษณาสินค้ามากมาย รวมถึงเซลล์ขายสินค้าที่มักจะมาแนะนำสินค้าให้คุณเมื่อคุณเดินผ่านร้านของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้คุณซื้อสินค้าทั้งสิ้น ถ้าหากคุณเป็นคนที่ถูกชักจูงได้ง่าย ก็จะซื้อสินค้าของเขาง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่ความจริงคุณก็แค่อยากได้มัน แต่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ เช่น เครื่องประดับ รองเท้าแบรนด์เนม ทั้งที่คุณมีของใช้เหล่านี้อยู่แล้ว ของที่ซื้อมาใหม่ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเท่าใดนัก สิ่งที่คุณควรทำเมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้ คือคุณต้องคิดไตร่ตรองเสียก่อนว่าคุณมีความจำเป็นต้องซื้อมันจริง ๆ หรือไม่ ซื้อมาแล้วจะใช้ได้คุ้มค่าหรือไม่ เพียงแค่นี้ก็ไม่ก่อให้เกิดการเสียเงินไปอย่างสูญเปล่าแล้วครับ

2. กาแฟสดราคาแพง
การดื่มกาแฟตอนเช้า เป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับคนทำงานส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ แต่กาแฟก็มีหลายราคา ถ้าเป็นกาแฟสดตามร้านดัง ๆ ราคาเกินร้อย หากดื่มทุกวัน เดือนหนึ่งก็ตกเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าอยากดื่มกาแฟเพื่อให้กระปรี้กระเปร่าในตอนทำงาน เราก็สามารถดื่มกาแฟธรรมดาแก้วละ 20 -25 บาท หรือกาแฟซอง (ที่ออฟฟิศมีให้พนักงานฟรีแทบจะทุกออฟฟิศ) แม้จะมีรสชาติดีไม่เท่ากาแฟสดร้านดัง แต่ก็ทำให้รู้สึกตื่นตัวได้ไม่แพ้กันครับ และทำให้ประหยัดเงินค่ากาแฟไปได้มากเลยทีเดียว

3. การใช้แต่ของที่ทันสมัยล่าสุด
การติดตามเทคโนโลยีล่าสุดเป็นสิ่งที่ดีเพื่อติดตามว่าโลกเราหมุนไปถึงไหนแล้ว แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ของที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยีล่าสุดทุกครั้ง เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ที่มีการอัพเดทฟังก์ชั่น และอุปกรณ์กันบ่อยมาก ๆ หากเราตามซื้อสิ่งของเหล่านี้ทุกครั้งที่มีออกมาใหม่ ทั้ง ๆ ที่ของเก่าที่เราใช้อยู่ก็ยังใช้ได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร จะทำให้เราสูญเสียเงินไปอย่างไม่คุ้มค่า และได้ของในราคาที่แพง เพราะสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมักจะมีราคาแพงตอนเปิดตัวเสมอ การจ่ายเงินซื้อเทคโนโลยีล่าสุดทุกครั้ง จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และควรหยุดเสียเงินให้กับมันได้แล้ว ควรซื้อเมื่อจำเป็นต้องใช้จริง ๆ เท่านั้น

4. เที่ยวกลางคืนแพง ๆ
การเที่ยวกลางคืนเพื่อผ่อนคลายนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ถ้าไม่บ่อยและแพงเกินไป แต่ถ้าเที่ยวบ่อยและแพงชนิดที่ว่าเกิดมาทั้งทีมีชีวิตให้คุ้มก็ควรหยุดได้แล้ว เพราะการเที่ยวกลางคืนไม่ทำให้ได้อะไรขึ้นมานอกจากความบันเทิงเท่านั้น การเที่ยวกลางคืนจะต้องเสียทั้งค่าเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ ค่าเดินทาง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร และเมื่อดื่มสุราเข้าไปแล้ว ก็จะทำให้เงินออกจากกระเป๋าง่ายขึ้น ขาดการไตร่ตรอง ทำให้เสียเงินไปจำนวนมากกว่าที่คิด ควรเก็บเงินส่วนนั้นไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่าครับ

5. ค่าสมาชิกฟิตเนสที่แพงเกินจริง
เดี๋ยวนี้คนรักสุขภาพมักจะสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสเพื่อเข้าใช้อุปกรณ์ของฟิตเนสในการออกกำลังกาย แต่ก็มีฟิตเนสบางที่ที่เก็บค่าสมาชิกสูงมาก ทั้ง ๆ ที่อุปกรณ์ก็สามารถใช้ได้เหมือนกับฟิตเนสที่อื่น ซึ่งคุณควรพิจารณาฟิตเนสที่มีค่าสมาชิกที่เหมาะสม และถ้าใกล้บ้านของคุณมีสวนสาธารณะให้ออกกำลังกายอยู่แล้ว ฟิตเนสก็ไม่จำเป็นเลย คุณสามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องเสียเงินที่สวนสาธารณะใกล้บ้านครับ

ทั้ง 5 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ควรหยุดเสียเงินให้ได้แล้ว เพื่อจะได้มีเงินเก็บที่มากขึ้น และนำไปใช้จ่ายกับอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้ครับ นอกจากการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นแล้ว เราต้องรู้วิธีการเก็บเงินกันด้วยนะครับ โดยสามารถอ่านเคล็ดลับการเก็บเงินได้ที่ 9 วิธี ออมเงิน แบบชิลๆ แต่ได้ผล และหากคุณผู้อ่านสนใจเคล็ดลับเกี่ยวกับการเงินก็สามารถอ่านบทความการเงินอีกมากได้ที่ MoneyGuru.co.th ครับ

อ้างอิง moneymax.ph, businessinsider.com,lifehack.org

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook