ราคาน้ำมันดิบร่วงต่ำสุดในรอบ 11 ปี

ไทยออยล์ รายงาน ราคาน้ำมันดิบร่วง แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าและน้ำมันคงคลังสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำมันปิดตลาดประจำวันที่ 5 ม.ค. 2559  น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับลดลง 0.79 เหรียญ มาอยู่ที่ 35.97 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ ปรับลดลง 0.80 เหรียญ มาอยู่ที่ 36.42 เหรียญ โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น หลังสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 1 ม.ค. 59 ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล เช่นเดียวกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ปรับเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.3 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง ปรับเพิ่มขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2 ล้านบาร์เรล


ด้านโอเปก รายงานการสำรวจปริมาณกำลังการผลิตน้ำมันดิบเดือน ธ.ค. 58 ปรับตัวลดลง 170,000 บาร์เรลต่อวัน มาสู่ระดับ 31.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากอิรักได้ลดกำลังการผลิตลงจากที่มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบสูงสุดในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปก เช่น ซาอุดีอาระเบีย และประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ยังคงรักษากำลังการผลิตไว้ที่ปริมาณเดิม เพื่อที่จะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดต่อไป


นอกจากนี้ ตลาดมองว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน นั้น อาจส่งผลให้ความคิดที่จะจำกัดปริมาณกำลังการผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปก ไม่ประสบความสำเร็จ และอาจส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันดิบออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนสูง และอาจส่งผลให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบของทั้งซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน และประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางได้ หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น