คืนแล้ว "เงินประกันชราภาพ" ผู้สูงอายุ ทยอยรับ "ขอออมต่อ" โอนไป กอช.1.8 แสนคน
นายโกวิท สัจจวิเศษ รักษาการเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กล่าวว่า หลังจากเปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 มาแสดงความจำนงรับเงินคืน หรือโอนไปกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 4 และ 5 แจ้งความจำนงลาออกจากกรณีชราภาพ หรือ บางส่วนขอโอนย้ายไปกอช. รวมกว่า 180,000 คน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมทุกจังหวัดตั้งโต๊ะเพื่อรับแจ้งความจำนงเพื่อลาออกหรือย้ายไปกอช. ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง วันที่ 23 มีนาคม 2559
“ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่มีสิทธิกรณีชราภาพทุกคนไม่ว่าจะอายุถึง 60 ปีหรือไม่ หากต้องการลาออกก็จะได้รับเงินคืนทั้งส่วนที่ส่งสมทบไว้และส่วนที่รัฐบาลสมทบ ส่วนธนาคารที่กำหนดไว้ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย กรุงศรีอยุธยา ออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.) นั้น เนื่องจากเป็นธนาคารที่ สปส.ได้มีข้อตกลงร่วมกันสามารถโอนเงินคืนให้ผู้ประกันตนผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ได้เลย แต่หากผู้ประกันตนใช้สมุดบัญชีของธนาคารอื่นก็สามารถทำได้แต่จะดำเนินการได้ช้า เพราะ ต้องทยอยนำเงินฝากเข้าบัญชีของผู้ประกันตนแต่ละราย” นายโกวิท กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่กระทรวงแรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกันสังคมตั้งโต๊ะบริเวณโถงด้านล่างอาคารสำนักงานประกันสังคม โดยเปิดให้สมาชิกมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3,4 และ 5 มา แจ้งความจำนงขอรับเงินคืน ลาออก หรือแจ้งโอนย้ายไปยังกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) ซึ่งได้เปิดมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน เฉลี่ยมีผู้ประกันตนมายื่นแสดงความจำนงวันละประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่แจ้งโอนไปอยู่ทางเลือกที่ 2 หรือ ลาออก และบางส่วนขอโอนไปกอช.มีจำนวนน้อย
ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเดินทางมาแจ้งความจำนงได้เรื่อยๆ ภายใน 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด นับตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2558 ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2559ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่จะเดินทางมาแจ้งความจำนงต้องนำเอกสารดังนี้ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2 ฉบับ สำเนาหน้าสมุดบัญชี 1 ฉบับ พร้อมทั้งลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง