คืนแล้ว "เงินประกันชราภาพ" ผู้สูงอายุ ทยอยรับ "ขอออมต่อ" โอนไป กอช.1.8 แสนคน

คืนแล้ว "เงินประกันชราภาพ" ผู้สูงอายุ ทยอยรับ "ขอออมต่อ" โอนไป กอช.1.8 แสนคน

คืนแล้ว "เงินประกันชราภาพ" ผู้สูงอายุ ทยอยรับ "ขอออมต่อ" โอนไป กอช.1.8 แสนคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายโกวิท สัจจวิเศษ รักษาการเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กล่าวว่า หลังจากเปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 มาแสดงความจำนงรับเงินคืน หรือโอนไปกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) มีผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 4 และ 5 แจ้งความจำนงลาออกจากกรณีชราภาพ หรือ บางส่วนขอโอนย้ายไปกอช. รวมกว่า 180,000 คน ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประกันสังคมทุกจังหวัดตั้งโต๊ะเพื่อรับแจ้งความจำนงเพื่อลาออกหรือย้ายไปกอช. ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง วันที่ 23 มีนาคม 2559

“ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ ผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่มีสิทธิกรณีชราภาพทุกคนไม่ว่าจะอายุถึง 60 ปีหรือไม่ หากต้องการลาออกก็จะได้รับเงินคืนทั้งส่วนที่ส่งสมทบไว้และส่วนที่รัฐบาลสมทบ ส่วนธนาคารที่กำหนดไว้ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย กรุงศรีอยุธยา ออมสิน หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.) นั้น เนื่องจากเป็นธนาคารที่ สปส.ได้มีข้อตกลงร่วมกันสามารถโอนเงินคืนให้ผู้ประกันตนผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์ได้เลย แต่หากผู้ประกันตนใช้สมุดบัญชีของธนาคารอื่นก็สามารถทำได้แต่จะดำเนินการได้ช้า เพราะ ต้องทยอยนำเงินฝากเข้าบัญชีของผู้ประกันตนแต่ละราย” นายโกวิท กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่กระทรวงแรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประกันสังคมตั้งโต๊ะบริเวณโถงด้านล่างอาคารสำนักงานประกันสังคม โดยเปิดให้สมาชิกมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3,4 และ 5 มา แจ้งความจำนงขอรับเงินคืน ลาออก หรือแจ้งโอนย้ายไปยังกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) ซึ่งได้เปิดมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน เฉลี่ยมีผู้ประกันตนมายื่นแสดงความจำนงวันละประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่แจ้งโอนไปอยู่ทางเลือกที่ 2 หรือ ลาออก และบางส่วนขอโอนไปกอช.มีจำนวนน้อย

ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเดินทางมาแจ้งความจำนงได้เรื่อยๆ ภายใน 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด นับตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2558 ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2559ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่จะเดินทางมาแจ้งความจำนงต้องนำเอกสารดังนี้ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2 ฉบับ สำเนาหน้าสมุดบัญชี 1 ฉบับ พร้อมทั้งลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook