โลกธุรกิจเล็กๆ ของ วิภานี กาญจนาภิญโญกุล

โลกธุรกิจเล็กๆ ของ วิภานี กาญจนาภิญโญกุล

โลกธุรกิจเล็กๆ ของ วิภานี กาญจนาภิญโญกุล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ทำงานมีความเครียดสูง บ้านอยู่ไกลจากที่ทำงาน อยากลองออกมาทำธุรกิจของตนเอง ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดก็ตาม มีหลายคนเลือกที่จะทำงานอยู่ที่บ้าน ทั้งการเปิดบ้านให้เป็นที่ทำงาน และการเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่ง เชอรี่-วิภานี กาญจนาภิญโญกุล ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ก่อนหน้าที่จะลาออกจากงานประจำ เชอรี่ เป็นทั้งนักเขียน นักแปล โดยวนเวียนอยู่กับการทำหนังสือมาร่วม 10 ปี แต่วันหนึ่งเมื่อเธอแต่งงานและต้องย้ายบ้านมาอยู่ย่านชานเมือง ทำให้การเดินทางไปทำงานลำบากทั้งในแง่เวลาและค่าใช้จ่าย จึงตัดสินใจลาออกมาเป็นฟรีแลนซ์ รับเขียนและแปลงานอยู่ที่บ้าน แต่ด้วยความที่เชอรี่มีงานเย็บปักถักร้อยเป็นงานอดิเรก จึงเปลี่ยนงานอดิเรกนั้นมาสร้างรายได้ควบคู่กันไป ทั้งกระเป๋า หมอน bean bag ภายใต้แบรนด์ cherijame โดยขายผ่าน www.etsy.com ร้านค้าออนไลน์ที่เปิดให้กับผู้รักงานแฮนด์เมดโดยเฉพาะ

“ยอมรับว่าเครียดและแอบกังวลกับรายได้ประจำที่หายไปอยู่บ้าง พยายามทำงานแฮนด์เมดออกไปขายตามงานต่างๆ มากขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่คุ้มกับการเดินทางและความเหนื่อย ประจวบกับช่องทางที่ทำไว้คือ etsy สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น จนเป็นรายได้หลัก ก็เลยมุ่งขายที่ etsy อย่างเดียว แต่ข้อดีที่ค้นพบของการทำงานที่บ้านคือความอิสระในการจัดการชีวิตตนเอง ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้ายันเข้านอนตอนค่ำ อยากทำอยากลองอะไรก็สามารถทำได้เลย มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลองคิดดูแต่ก่อนเสียค่ารถเดินทางไปทำงานเดือนละ 5-6 พันบาท แต่ตอนนี้มีเวลาว่างตอนเย็นๆ ได้ออกไปปั่นจักรยาน วิ่งออกกำลังกาย”


อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับการทำงานอยู่ที่บ้านจะต้องบริหารจัดการหลักๆ 2 เรื่องสำคัญ คือ บริหารจัดการเวลาของตนเอง และการบริหารจัดการรายได้ สำหรับเชอรี่จะมีเป้าหมายทุกวันว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง แล้วพยายามทำให้ได้ เพียงแต่ข้อดีของการทำงานที่บ้านคือ จะทำเวลาไหนก็ได้ “บางทีตอนเช้ายังไม่อยากทำ มาทำตอนมืด หรือจะทำงานถึงตี 3 ก็มี แต่เราบริหารจัดการเวลาให้ได้ แล้วต้องทำให้งานออกมามีคุณภาพดีด้วย นอกจากนี้ ก็จะต้องวางแผนการทำงานให้กับตนเองว่า วันไหนออกไปซื้อของ วันไหนนั่งทำงาน คือจัดสรรเวลาให้ลงตัว”

สำหรับการบริหารจัดการรายได้นั้น เนื่องจากการทำงานลักษณะนี้จะมีรายได้ไม่แน่นอน แต่เมื่อทำได้สักพักจะจับทางได้ว่าช่วงไหนที่จะมีออร์เดอร์มาก ช่วงไหนออร์เดอร์น้อย ก็ทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่าย การลงทุนซื้อวัตถุดิบได้ “เรารู้แล้วว่าช่วงปลายปีจะขายดีมาก เพราะเป็นช่วงเทศกาล ช่วงกลางปีออร์เดอร์น้อย ก็จะใช้เวลานี้ในการทดลองเทคนิคใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ออกมา และพยายามทำของตุนเอาไว้ขายช่วงปลายปี”

ที่สำคัญ เชอรี่บอกว่า เป็นหัวใจของการทำงานที่บ้าน คือ พื้นที่และบรรยากาศ กล่าวคือ พื้นที่ต้องมากพอในการวางวัตถุดิบโดยเฉพาะสต๊อกม้วนผ้าและโต๊ะทำงานที่มีอุปกรณ์พร้อมในการทำงาน และอย่าลืมตกแต่งหรือสร้างบรรยากาศให้น่านั่งทำงานด้วย เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์งานดีไซน์ใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ


Create by smethailandclub.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook