"มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" คาดเงินสะพัด 500 ล้าน

"มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" คาดเงินสะพัด 500 ล้าน

"มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" คาดเงินสะพัด 500 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงอุตฯ เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจไทย จัดสุดยอด "มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" คาดเงินสะพัด 500 ล้าน

กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าจัดงานเพื่อผู้ประกอบการและประชาชน Thailand Industry Expo 2015 "มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" ภายใต้แนวคิดอุตสาหกรรมไทยก้าวหน้า พัฒนาด้วยนวัตกรรมหลังผลตอบรับดีจากปีแรกที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน เงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาท

ในปีนี้จึงสานต่อความสำเร็จด้วยการกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน พร้อมขนสุดยอดนวัตกรรมจากผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศมากกว่า 70 ราย ผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน หรือ OTOP จากทั่วประเทศ กว่า 1,400 ราย มาจัดแสดงและจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์คลินิกอุตสาหกรรมเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP จากเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านรวมถึงกิจกรรมส่งเสริมความรู้จากสัมมนากว่า 100 หัวข้อ และกิจกรรม Workshop สร้างงานสร้างอาชีพสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินดาราชื่อดัง โดยตั้งเป้าปีนี้จะสามารถกระตุ้นเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และมีคนเข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 3 แสนคนบนพื้นที่จัดงานกว่า 60,000 ตารางเมตร อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานีตั้งแต่ 22-27 กันยายนนี้

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า งาน Thailand Industry Expo 2015 "มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี" จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันโดยการผนึกกำลังความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน มาร่วมจัดแสดงผลงาน จัดเตรียมสินค้าดี มีคุณภาพมาจัดจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ เพื่อให้ประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการด้วยกันเอง สามารถจับจ่ายใช้สอยสินค้าดีของไทยอย่างเต็มที่ และมีความภูมิใจในการเลือกใช้สินค้าไทย

ทั้งนี้จากความสำเร็จในการจัดงาน Thailand Industry Expo 2014 ในปีที่ผ่านมามีผู้ร่วมงานกว่า 2 แสนคน และมียอดขายสินค้าในงาน 303,593,103 บาท ทำให้เห็นว่าการจัดงานในลักษณะนี้ เป็นประโยชน์ทั้งต่อภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ทั้งในแง่ของการเป็นเวทีสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทยในการแสดงศักยภาพ ความหลากหลายทั้งในแง่ของสินค้าและบริการที่เป็นฝีมือของคนไทย

อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง ตลอดจนเป็นพื้นที่เผยแพร่ความรู้และพัฒนาทักษะในการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ และจุดประกายให้แก่ผู้ที่สนใจสร้างอาชีพของตน

จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยด้วย อย่างไรก็ตามก็ยังคงเชื่อมั่นว่าการจัดงาน Thailand Industry Expo 2015 มหกรรมซื้อของไทย ใช้ของดี ภายใต้แนวคิด "อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้า พัฒนาด้วยนวัตกรรม" เพื่อขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรีในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจของรัฐบาล ในการส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาพัฒนากระบวนการผลิต และการดำเนินงานขององค์กร ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ

ทั้งในแง่ของการลงทุนของผู้ประกอบการ และการบริโภคของประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในงาน โดยตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานและเลือกซื้อสินค้าไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน นางอรรชกากล่าว

นางอรรชกากล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในงานดังกล่าวจะคับคั่งไปด้วยสุดยอดสินค้านวัตกรรมจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศมากกว่า 70 ราย ผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน หรือ OTOP จากทั่วประเทศ กว่า 1,400 ราย ที่นำเอาผลิตภัณฑ์ของตนเองมาจัดแสดง และจัดจำหน่ายในราคาสุดพิเศษ ด้วยความยิ่งใหญ่ภายใต้ 3 พ. ได้แก่ พื้นที่ (ใช้พื้นที่เต็มอาคารชาเลนเจอร์) พันธมิตร และพลัง

โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทย ต่างมาร่วมกันแสดงพลังความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็งมั่นคง

โดยกิจกรรมในงาน ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรกเป็นนิทรรศการและมหกรรมการแสดงสินค้า ซึ่งการจัดนิทรรศการ แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ดังนี้ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โซนนิทรรศการกระทรวงอุตสาหกรรม โซนนิทรรศการสุดยอดนวัตกรรม ซึ่งเป็นการรวมผนึกกำลังของ 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่

กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ สสว. โซนนิทรรศการย่านการค้าแฟชั่นแฟชั่น โดยจำลอง 6 ย่านการค้าชื่อดังมาไว้ในงาน คือ จตุจักร สยามสแควร์ สำเพ็ง เทอร์มินัล 21 (Terminal 21) แฟชั่นมุสลิมมีนบุรี และตลาดผ้าไหมปักธงชัย

นอกจากนี้ในส่วนที่สองของงานจะเป็นด้านวิชาการ ทั้งการสัมมนาวิชาการกว่า 100 หัวข้อสัมมนา การจัดกิจกรรมWorkshopสร้างงานสร้างอาชีพสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจรวมถึงการจัดคลินิกอุตสาหกรรมเพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประกอบการ SMEsและOTOP โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ ทั้งด้านการเริ่มต้นธุรกิจ การเพิ่มผลิตภาพในกระบวนการผลิต การบริการทางการเงินจาก SMEs Bank และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงการเชื่อมต่อพันธมิตรทางการค้าและการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินดาราชื่อดังมากมายโดยงานดังกล่าวจัดพื้นที่เต็มกว่า 60,000 ตารางเมตร ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ระหว่างวันที่ 22 - 27 กันยายนนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นางอรรชกากล่าวสรุป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook