สรรพากรร่าง กม.ดึงขาโจ๋ 15 ปีเข้าฐานภาษี ชาวนายื่นแบบรายได้

สรรพากรร่าง กม.ดึงขาโจ๋ 15 ปีเข้าฐานภาษี ชาวนายื่นแบบรายได้

สรรพากรร่าง กม.ดึงขาโจ๋ 15 ปีเข้าฐานภาษี ชาวนายื่นแบบรายได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรรพากรเร่งเครื่องยกร่างกฎหมายชงคลังปีนี้ รับลูกนโยบายนายกฯดึงวัยโจ๋อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป-ชาวนายื่นแบบแสดงรายได้ หวังเชื่อมโยงข้อมูลประชาชนแก้ปัญหาการเสียภาษี ผนวกจัดสรรสวัสดิการรัฐให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ขุนคลังคนใหม่เล็งพัฒนาระบบชำระภาษีเชื่อมกับระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของแบงก์

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งมอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาหาแนวทางแก้ปัญหาการเสียภาษี เช่น การเสียภาษีซ้ำซ้อน การรั่วไหลของภาษี รวมถึงลดขั้นตอนการเสียภาษี พัฒนาฐานข้อมูลการเสียภาษีให้เชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎรกับบริการภาครัฐทั้งระบบ เช่น รายได้ของชาวนา เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดการให้บริการสาธารณะต่าง ๆ เช่น รถไฟฟรี รถขนส่งมวลชนฟรี เป็นต้น โดยให้มีการยกร่างกฎหมายและอยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่ และเตรียมเสนอไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังภายในปีนี้ โดยมีแนวคิดจะเสนอเป็นร่างกฎหมายฉบับใหม่ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย หรือหน่วยงานด้านสังคม หรือหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ส่วนหลักการคือเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับทะเบียนราษฎร และให้ประชาชนยื่นแบบแสดงรายได้เพื่อนำข้อมูลรายได้ภูมิลำเนานี้ไปใช้ สำหรับจัดสรรสวัสดิการแก่ประชาชนอย่างเหมาะสม และทำได้ตรงกับความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

"ตอนนี้เดินหน้าไปพอสมควรแล้ว โดยเราจะเก็บเป็นฐานข้อมูลเพื่อดูแลด้านสวัสดิการให้แก่ประชาชน สมมุติผู้มีรายได้มีพ่อแม่ ซึ่งได้สิทธิ์เบี้ยคนชราเดือนละ 600 บาท/คน ทั้งที่เขาสามารถดูแลพ่อแม่ได้โดยไม่มีความจำเป็นต้องขอรับเบี้ยคนชรา ตรงนี้ก็สามารถลดภาระรัฐได้ อีกด้านรัฐยังสามารถนำเงินตรงนี้ไปดูแลคนอื่น ๆ ที่จำเป็นแทนได้ โดยอาจจะให้เพิ่มเป็นคนละ 2,000 บาทก็ได้" นายประสงค์กล่าว

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดก่อนว่าจะมีหน่วยงานใดเข้าร่วมบ้าง เพราะการยื่นแบบไม่จำเป็นต้องยื่นที่กรมสรรพากรเท่านั้น สามารถยื่นที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ก็ได้ หรือหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ก็ได้

แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรอีกรายกล่าวว่า ในการประชุมร่วมกับนายอภิศักดิ์ รมว.คลัง ได้เน้นในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยมีนโยบายให้ปรับปรุงพัฒนาระบบ e-Tax receipt (ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอกนิกส์) และ e-Tax invoice (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์) เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบธนาคาร ขณะเดียวกัน จะใช้สิทธิประโยชน์มาจูงใจประชาชนเข้ามายื่นแบบแสดงรายได้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยตามกฎหมายแรงงานยื่นแบบแสดงรายได้ แม้ว่าคนกลุ่มนี้อาจมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี

"เป้าหมายคือ คนไทยทุกคนเบื้องต้นอาจอายุ 15 ปีขึ้นไป ให้เข้ามายื่นแบบแสดงรายได้ และให้สิทธิประโยชน์จูงใจ เช่น ถ้ารายได้ไม่ถึงเกณฑ์จะได้ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟรี ใช้น้ำฟรี ไฟฟรี 50 หน่วย ซึ่งรายละเอียดพวกนี้ต้องเคาะอีกทีเพราะต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" แหล่งข่าวกล่าว

ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี โดยอยากให้เพิ่มเติมใน 2 เรื่อง ได้แก่ การนำระบบชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) มาแทนการใช้เงินสด ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพกับการจัดเก็บภาษี สามารถตรวจสอบได้ทันที และสามารถขยายฐานภาษีได้มากขึ้น อีกเรื่องคือต้องทำให้ผู้ประกอบการใช้ระบบบัญชีเดียว ไม่หลบเลี่ยงภาษี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook