หนี้บัตรเครดิตก็มี หนี้ผ่อนบ้านก็มา แก้ปัญหายังไงดี?

หนี้บัตรเครดิตก็มี หนี้ผ่อนบ้านก็มา แก้ปัญหายังไงดี?

หนี้บัตรเครดิตก็มี หนี้ผ่อนบ้านก็มา แก้ปัญหายังไงดี?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยได้ยินไหมครับ ว่าหนี้มี 2 ประเภท คือ หนี้ดี กับ หนี้เสีย

หนี้ดี คือ หนี้ที่จะสามารถช่วยสร้างอนาคตดีๆ ให้กับเราในระยะยาวได้ ส่วนการเป็นหนี้เสีย ก็คือ การเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้เงินผ่อนที่เรามีปัญหาในการชำระคืน ดังนั้น การเลือกเป็นหนี้ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราครับ

การเป็นหนี้ ไม่ได้หมายถึงสิ่งเลวร้ายเสมอไป หากเราสามารถบริหารได้อย่างถูกต้องครับ คนเรามีความจำเป็น ต้องซื้อ ต้องกิน ต้องใช้ ต้องหาอะไรมาสนับสนุนอนาคตของเรา แต่หากเราไม่มีเงินสดติดมือ หรือไม่มีเงินเป็นก้อนเป็นกำใส่กระเป๋ามาจ่ายสด การใช้บัตรเครดิตก็สามารถให้ความสะดวกสบายกับเราได้

แต่หากเราไม่มีการวางแผนที่ดีแล้ว เราก็จะเป็นหนี้เป็นสิน หนี้พอกไม่รู้ตัวครับ ดังนั้น มาดูวิธีการบริหารหนี้กันเลยครับ

1. เลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับการใช้งาน
หากเราต้องการผ่อนบ้าน ก็เลือกบัตรเครดิตที่มีโปรโมชั่น มีตัวช่วย มีข้อเสนอดีๆ สำหรับการผ่อนบ้าน เป็นต้น ส่วนนี้เราสามารถสอบถามจากสถาบันการเงิน หรือใช้บริการเปรียบเทียบบริการบัตรเครดิตออนไลน์ก็ได้ครับ

2. วางแผนการชำระหนี้ก่อนสร้างหนี้
เมื่อเราตัดสินใจแล้วว่าเราจะเป็นหนี้ การสร้างหนี้ดี จะสร้างผลประโยชน์ให้กับเราได้ในระยะยาวครับ ดังนั้น วางแผนการชำระเงินให้ดีเสียก่อน ว่าเราสามารถรับภาระได้เดือนละเท่าไหร่ ต้องจ่ายเมื่อไหร่บ้าง สำหรับอะไรบ้าง โดยจะต้องไม่ให้เงินขาดมือนั่นเองครับ

3. บันทึกรายรับ-รายจ่าย
การจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นสิ่งสำคัญมากครับ อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายนี้ จะสามารถช่วยเราประเมินสถานการณ์ทางการเงินของเราได้ และทำให้เรารู้ตัวตลอดเวลา ว่าเราจะต้องบริหารเงินของเราอย่างไรบ้าง สามารถแบ่งแยกได้ว่าอะไรเป็นรายจ่ายที่จำเป็น หรือฟุ่มเฟือย อะไรที่เราสามารถลด ละ เลิกได้ แล้วก็ทำการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งจะทำให้เราสามารถกันเงินส่วนนี้มาทบเงินค่าผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ในแต่ละเดือนได้นั่นเองครับ

4. หากมีหนี้ ให้รีบปลด
หากเรามีหนี้ก้อนใหญ่ค้ำอยู่ ให้รีบปลดหนี้ก้อนนั้นให้หมดก่อนนะครับ หากคุณสามารถชำระรวดเดียวแบบเต็มจำนวนได้ แล้วมีเงินเหลือพอใช้จ่ายต่อเดือน ยิ่งควรปลดหนี้ให้หมดเลยครับ หากเรามีบัตรเครดิตหลายใบ มีหนี้บัตรเครดิตเหล่านี้ ให้รีบชำระหนี้ของบัตรเครดิตที่มียอดสูงที่สุด และมีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อนครับ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาอึดอัดใช้หนี้กันนานๆ อย่าลืมนะครับ อย่าจ่ายแค่ขั้นต่ำหากคุณไม่ต้องการให้ดอกเบี้ยพอกพูนครับ

5. ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ (ธนาคาร หรือบริษัทที่ให้สินเชื่อ) เพื่อขอทำสัญญาใหม่ที่จะปรับเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมติดตามหนี้ และอื่นๆ ให้คุณได้ การทำแบบนี้ จะสามารถช่วยยืดระยะเวลาการผ่อนชำระให้คุณได้ครับ โดยคุณสามารถขอให้ธนาคารรวมยอดมา แล้วลดอัตราดอกเบี้ย บัตรเครดิต กับสินเชื่อ ซึ่งมีการคำนวณไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากคุณมีหนี้เยอะหลายตัวหลายแบบ การปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินหรือธนาคาร จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ

6. การรีไฟแนนซ์
หากคุณใช้หนี้แล้ว แต่บังเอิญเหลือเงินไม่พอใช้ อาจจะต้องลองคิดเรื่องรีไฟแนนซ์นะครับ การรีไฟแนนซ์ จะช่วยยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปได้ แต่ต้องดูที่ๆ ให้ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำกว่าที่เก่านะครับ เราต้องการีไฟแนนซ์เพื่อช่วยผ่อนหนี้ ไม่ได้ช่วยทำให้เราลำบากกว่าเดิมในการชำระหนี้ครับ เพราะการรีไฟแนนซ์อาจทำให้คุณจ่ายต้องหนี้มากกว่าเดิมถึงสองเท่า ดังนั้น หากคิดที่จะรีไฟแนนซ์แล้ว ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้มั่นใจก่อน ว่าการรีไฟแนนซ์จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดจริงๆ ครับ

7. หาที่กู้ดอกเบี้ยต่ำจากแหล่งอื่นๆ
อีกวิธีที่จะทำได้ก็คือ การหาที่กู้เงินที่ให้ดอกเบี้ยต่ำครับ เพื่อที่เราจะได้หาเงินกู้มาใช้หนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว สหกรณ์ สวัสดิการพนักงาน ฯลฯ เป็นต้น

สุดท้ายนี้ การมีวินัยในการบริหารเงินเป็นสิ่งสำคัญครับ วิธีการทำได้ง่ายๆ แต่สำคัญคือต้องสร้างวินัย และนิสัยในการบริหารเงินที่ดี เพื่อที่เราจะได้ไม่เป็นหนี้เสียนั่นเองครับ

ติดตามสาระความรู้ และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และประกันภัยได้ที่ MoneyGuru.co.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook