ซีเอ็นเอ็น มันนี่ ประมวลตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก 10 เมือง ที่ราคาบ้านที่อยู่อาศัยแบบลักชัวรี่พุ่งสูงมากที่สุด ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
1. ซานฟรานซิสโก ในสหรัฐฯ ราคาพุ่ง 14.3%
ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ราคาบ้านหรูพุ่งสูงที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของไนท์ แฟรงก์ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีในเมืองนี้อีกมาก จึงส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นอีก และถือว่าเป็นเมืองที่ตลาดบ้านหรูเกิดใหม่ และเป็นเมืองที่มีต่างชาติมาลงทุนอย่างมาก ทั้งนี้ อีกปัจจัยที่ทำให้ตลาดบ้านหรูซานฟรานซิสโกโดดเด่น เนื่องจากราคาอสังหาฯ ลอนดอนตกลงเพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองช่วงเลือกตั้ง และราคาคอนโดหรูของนิวยอร์กถูกลงอีกด้วย
2. บังกาลอร์ ในอินเดีย ราคาพุ่ง 14.3%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
อสังหาริมทรัพย์ในบังกาลอร์น่าสนใจเพราะการเติบโตของเมืองเป็นฮับไอที หรือที่รู้กันว่าเป็น ซิลิคอนวัลเลย์ ของอินเดีย จึงมีเงินหลั่งไหลเข้ามาในบังกาลอร์จำนวนมาก และมีการคาดการณ์ว่าเมืองนี้จะมีมูลค่าอสังหาฯ สูงขึ้นอีกเท่าตัวในอีก 10 ปีข้างหน้า
3. ไมอามี่ ในสหรัฐฯ ราคาพุ่ง 12.2%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
เงินที่หลั่งไหลเข้ามายังตลาดอสังหาฯ ของไมอามี่ ส่วนใหญ่มาจากละตินอเมริกา ซึ่งเศรษฐีที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่หนีมาจากตลาดที่ไม่แน่นอนด้วยปัจจัยทางการเมืองมา อย่างเช่น เวเนซูเอลา ส่วนผู้ซื้อในประเทศเองก็ยังสนใจไมอามี่ ซึ่งมักมีเศรษฐีซื้อไว้เป็นบ้านตากอากาศ
4. แวนคูเวอร์ ในแคนาดา ราคาพุ่ง 11.8%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
ย่านที่เป็นบ้านหรูราคาแพงที่สุดในแวนคูเวอร์พุ่งสูงขึ้นเพราะชาวต่างชาติ นอกจากนี้ แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่ราคาคอนโดสูงสุดที่ต่างชาติเข้ามาซื้ออีกด้วย
5. จาการ์ตา ในอินโดนีเซีย ราคาพุ่ง 11.2%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
เมืองหลวงของอินโดนีเซียมีคนรวยมากขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่ราคาอสังหาฯ ติดอันดับสูงเป็นเท่าตัวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยตลาดอสังหาฯ ที่โตขึ้นเหล่านั้นเป็นเศรษฐีที่ซื้อบ้านหรูนั่นเอง ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากทรัพยากรของอินโดฯ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีคนหนุ่มสาวจำนวนมากที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเมืองอีกด้วย
6. เทลอาวีฟ ในอิสราเอล ราคาพุ่ง 10.2%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
ราคาอสังหาฯ ในเทลอาวีฟสูงขึ้นเกินเท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพราะมีดีมานด์จากต่างชาติสูง ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนซัพพลายของอสังหาฯ ทั่วประเทศอิสราเอลมีจำนวนจำกัด เพราะมีประชากรอยู่หนาแน่น อย่างไรก็ตาม เทลอาวีฟเป็นเมืองที่อสังหาฯ โตเป็นอันดับ 3 ของโลกเนื่องมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเมือง
7. โตเกียว ในญี่ปุ่น ราคาพุ่ง 8.1%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่า ทำให้ดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในโตเกียว โดยไนท์ แฟรงก์ กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติได้กำไรค่อนข้างสูงจากการให้เช่าอสังหาฯ ที่ลงทุน
8. ดับลิน ในไอร์แลนด์ ราคาพุ่ง 8%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า แม้ว่าไอร์แลนด์จะเศรษฐกิจซบเซาในช่วงวิกฤตยูโรโซน แต่ก็สามารถกลับมาฟื้นได้ ล่าสุด ปีนี้ได้ประกาศอัตราจีดีพีโต 3.9% สูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคมากกว่าเท่าตัว
ทั้งนี้ ไนท์ แฟรงก์ ระบุว่า เศรษฐีผู้ซื้ออสังหาฯ ในดับลิน มีทั้งมาจากเอเชียและสหรัฐฯ โดยเห็นว่าเป็นเมืองที่สามารถให้ลูกมาเรียนมหาวิทยาลัยได้ จึงเป็นสาเหตุที่พวกเขามาซื้ออสังหาฯ ที่นี่
9. ลอสแองเจลิส ในสหรัฐฯ ราคาพุ่ง 8%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
ลอสแองเจลิส คือเมืองอันดับ 2 ของแคลิฟอร์เนียที่ราคาอสังหาฯ พุ่งสู รองจากซานฟรานซิสโก ทั้งนี้ ย่านเบเวอร์ลี ฮอลล์ เป็นเมืองที่ราคาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
10. ซิดนีย์ ในออสเตรเลีย ราคาพุ่ง 7.4%
ภาพจาก Shutter Stock /CNNMoney
ปัจจัยที่ราคาอสังหาฯ เมืองติดอ่าวฮาร์เบอร์ยังคงเติบโต เป็นเพราะซัพพลายขาดแคลนและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องการซื้ออสังหาฯ ที่ซิดนีย์ โดยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซิดนีย์ได้อานิสงค์จากตลาดแร่ที่บูมอย่างมาก ทำให้เกิดเศรษฐีใหม่จำนวนมาก และยังช่วยให้ราคาบ้านหรูโตขึ้นมาก กระทั่งราคาพุ่งไปในระดับที่ผู้ซื้อทั่วไปไม่สามารถซื้ออสังหาฯ ในซิดนีย์ได้