ถ้าไม่มีเงินออมฉุกเฉิน ชีวิตของเราจะเป็นยังไง?

ถ้าไม่มีเงินออมฉุกเฉิน ชีวิตของเราจะเป็นยังไง?

ถ้าไม่มีเงินออมฉุกเฉิน ชีวิตของเราจะเป็นยังไง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สวัสดีชาว (รก) โลก พี่เกรย์กับมาอีกครั้งกับบทความการเงินกระแทกใจสไตล์ฮาร์ดคอ แต่ก่อนจะเริ่มพี่เกรย์มีเรื่องอยากจะเม้ามอยหอยกาบให้ทุกคนที่ติดตาม Aommoney.com รู้เรื่องเสียก่อน เพราะบทความนี้มีที่มากจากนังเลขาเจ้าประจำอีกเช่นเคยครับโผมมม

วันก่อนนังเลขามันส่งข้อความมาบอกว่า “พรุ่งนี้ขอลา macbook พัง ขอหาร้านซ่อมก่อน T T เสียของ เสียใจ อ๊ากกกก” เพราะว่ามันดันเจือกเอาคอมวางบนโต๊ะเตี้ยแล้วไปนั่งทำบนเตียงแทนไง ลองนึกสภาพดูสิว่า นั่งทำงานบนเตียงนอนแล้วมีโต๊ะเล็กวางอยู่ พอยุงกัดขยับหน้าขาแม่มเลยเตะโดนโต๊ะล้มคอมพังน้ำหกราดไฟช็อต โถๆๆๆๆ ซื้อคอมมาสามหมื่นกว่ายังผ่อนไม่หมด แม่มต้องไปเจอร้านซ่อมขอเปลี่ยนเมนบอร์ดราคาเกือบๆ สองหมื่น #โหดสัสไหมล่ะมรุง #ล่าสุดร้านโทรมาขอคืนเครื่องปฎิเสธการซ่อม #โถเจ้าเลขาน้อย

ทีนี้แม่มเกิดความชิบหายแล้วไงชีวิต คือ มนุษย์เงินเดือนหลายๆคนรวมถึงนังเลขาเนี่ย มันใช้เงินเดือนชนเดือนไง ถึงมันจะมีแบ่งเงินเก็บไว้เดือนละหลายบาท จากบทความเก่าเก็บ เงินเดือน 15,000 ก็สร้างอิสรภาพชีวิตได้ ที่มันเคยมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง แต่ความผิดพลาดแม่มคือ แม่มเสือกเอาเงินออมไปลงทุนไง ไม่ยอมเผื่อแผ่ในการออมเงินฉุกเฉิน เพราะคิดว่าไม่สำคัญ เดี๋ยวเดือนๆนึงรายได้ก็เพิ่มเข้ามา จึงไม่ได้สนใจไงสัส

ทีนี้ชีวิตชิบหายวายป่วงขนาดหนัก เพราะงานแม่มอยู่ในคอม ไม่มีคอมก็เหมือนขาดใจ ทำงานไม่ได้ สุดท้ายลำบากต้องมาช่วยมันทำงานอีกดวกส์ แต่ยังไงลำบากงานยังไม่พอ เพราะมีคนหน้าตาดีคอยช่วยแบบกรุอยู่ แต่เรื่องเงินนี่มันเรื่องใหญ่ไง เงินตั้งสองหมื่นจะให้หยิบยืมใครกันดีล่ะ

หวยแม่มก็มาออกตรงที่ “พ่อ” ไงสัส #ไม่ได้ด่าพ่อมันนะแต่มันดันไปยืมพ่อมันจริงๆ ทีนี้เห็นไหมล่ะ เวลาพวกมรุงลำบากคนที่ช่วยเหลือมรุงก็คือครอบครัวนั่นแหละ แต่มันก็ไม่สบายใจพยายามจะหยิบยืมคนอื่นให้น้อยที่สุดไง จริงๆกรุก็ถามมันนะว่าให้ช่วยไหม กรุมีเงินแอบเก็บเมียอยู่สามพันสิบห้าบาท มันบอกไม่เป็นไรพี่หนูเห็นแล้วสังเวช #สัส

สุดท้ายมันบอกกรุว่า “พี่เกรย์รู้ไหม วินาทีชีวิตทีต้องพึ่งเงินฉุกเฉินนี่แม่มเศร้ามากเลยค่ะ” #คือกรุเห็นชีวิตมรุงก็เศร้าแล้ว เพราะเราต้องบากหน้าตรากตรำฝืนกล้ำกลืนไปยืมเงินชาวบ้าน ดีที่ยังเป็นพ่อตัวเอง ถ้าหนูต้องไปยืมคนอื่น คนอื่นเค้าจะคิดยังไงกับหนู พูดแล้วเศร้าจริงจัง

บทความตอนนี้ของกรุ ต้องการมาเตือนให้ทุกคนรู้จักหัดเก็บเงินฉุกเฉินบ้าง เพราะแม่มสำคัญสุดๆ คนเรานะจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ตายไปไม่มีปัญหา แต่ถ้าเสือกมีปัญหาแล้วไม่ตายแม่มก็เหมือนตายทั้งเป็นไงล่ะสัส เอาล่ะ.. กรุจะสรุปให้ฟังว่าเงินฉุกเฉินที่ควรมีนั้นต้องเป็นเท่าไร


เรื่องแรกมรุงต้องรู้ก่อนว่า “บัญชีฉุกเฉิน” คืออะไร? มันคือเงินเก็บหรือเงินออมที่ต้องเตรียมไว้สำหรับเรื่องราวที่พวกมรุงไม่คาดฝัน ไม่ว่าอุบัติเหตุ เจ็บไข้ได้ป่วย ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือตกงานกะทันหัน โดยคนแม่มชอบแนะนำให้มีประมาณ 6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน แต่ถ้ามรุงแม่มรายได้ไม่แน่นอนหรือฟรีแลนซ์ หรือทำธุรกิจ กรุบอกตรงๆนะสัส เก็บแม่มให้พอสัก 12 เท่ากันไปเลย

เรื่องสอง มรุงต้องรู้ว่า “เงินฉุกเฉิน” แม่มต้องมี “สภาพคล่อง” นั่นคือถอนได้ทันทีที่มรุงต้องการภายใน 1 วันหรืออย่างช้าสุดไม่เกิน 2 วัน ดังนั้นเงินก้อนนี้มักจะถูกเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ฝากไม่ประจำ หรือกองทุนตลาดเงิน ตราสารหนี้ที่ผลตอบแทนไม่สูงแต่มีสภาพคล่องถอนได้เร็วไว อย่าเสือกกระสันปากดีมาบอกว่า อุ้ยๆๆ หนูเก็บออมเงินฉุกเฉินไว้ในหุ้นค่ะ #หุ้นพ่อง เกิดวันที่มรุงต้องใช้หุ้นตกมาติดดิน แล้วมรุงจะมีเงินที่ไหนมาใช้วะดวกส์ #การลงทุนมีความเสี่ยง #แต่การลงทุนไม่เป็นมีความโง่

เรื่องสุดท้าย มรุงอย่าลืมทำประกันป้องกันความเสี่ยง กรุบอกเลยสัส เรื่องบางเรื่องแม่มถ้ามรุงยอมจ่ายประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น ประกันรถ ประกันบ้าน ประกันสุขภาพ หรือประกันอะไรก็ตามที่แม่มจะช่วยบรรเทาภาระมรุงได้ถ้าเกิดความเสียหาย มรุงจงป้องกันมันไว้ “เผื่อ” ว่าเหตุร้ายมันจะเกิดแล้วมรุงจะไม่ลำบาก แต่อย่างนังเลขานี่แม่มประกันไม่ยอมจ่ายเพราะมันดันทำน้ำหกรดคอมจ้า

คนเราทุกคนแม่มชอบคิดว่าเงินไม่สำคัญ ใช่แล้วเงินแม่มไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆคือชีวิตไงจ๊ะ และการมีเงินทำให้ชีวิตพวกมรุงง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะเวลาที่พวกมรุงเจอความลำบาก ดังนั้นจงเก็บเงินฉุกเฉินเหอะสัส ถือว่ากรุขอร้องให้พวกมรุงได้ดี แล้วกรุจะพูดจาดีๆกับพวกมรุงสัก 1 วัน โอเคนะ จุ๊ฟๆๆ



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook