หินนำโชค "เมดูซ่า" กับธุรกิจแรกของชีวิตของไฮโซ“ป๊อป-วราวุธ"

หินนำโชค "เมดูซ่า" กับธุรกิจแรกของชีวิตของไฮโซ“ป๊อป-วราวุธ"

หินนำโชค "เมดูซ่า" กับธุรกิจแรกของชีวิตของไฮโซ“ป๊อป-วราวุธ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เรื่องหินเสริมมงคลก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ก่อนหน้านี้เวลาไปเมืองนอกเห็นฝรั่งใส่เยอะมาก และตอนนี้เมืองไทยก็ใส่กันเยอะ ก็อยากใส่กับเขาบ้าง แต่ด้วยวัยขนาดนี้ ก็อยากจะหาอะไรพิเศษให้กับตัวเรา ให้เหมาะกับดวงของเรา"

นาทีนี้ ถ้าถามว่าสินค้าอะไรฮิตที่สุดในตลาด ตอบทันทีเลยว่า "หินเสริมมงคล" หรือหลายคนเรียกว่า "หินนำโชค" ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหน หรือแม้แต่ในโลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย จะเห็น "หินเสริมมงคล" วางขายกันเต็มไปหมด

ไม่เว้นแม้แต่ไฮโซชื่อดัง “ป๊อป-วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ” ที่แม้จะมีงานแน่นเอี้ยด เป็นทั้งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์บริษัท คริสเตียน ดิออร์ เป็นผู้ประกาศข่าวรายการโต๊ะข่าวบันเทิง และบันเทิงต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้จัดรายการ เดอะ ลิสท์ (The List) อัศจรรย์ความรู้ และรายการเดอะ โพลล์ (THE POLL) เข้าใจความต่างอย่างมีสไตล์ ออกอากาศทุกวันจันทร์-พุธ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

ก็แบ่งเวลามาเปิด "ธุรกิจแรกในชีวิต" กับร้านจำหน่ายหินเสริมมงคล โดยร่วมกับนักโหราศาสตร์ชื่อดัง "หมอช้าง" ทศพล ศรีตุลา เปิดร้านชื่อกิ๊บเก๋ "เมดูซ่า"

ป๊อป-วราวุธ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า เริ่มจากตัวเองเป็นคนชอบความสวยความงาม ชอบแฟชั่น เพราะทำงานวงการนี้มากว่า 10 ปี ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่เชื่อเรื่องสิริมงคลมาตั้งแต่เด็ก ชอบไหว้พระไหว้เจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยส่วนตัวเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น ยกตัวอย่าง จะไม่ตัดผมวันพุธเลย หรือจะไม่ใส่เสื้อที่ไม่ถูกโฉลก เช่น วันจันทร์ไม่ให้ใส่สีแดงก็จะเลี่ยงไม่ใส่ จึงนำทั้งเรื่องแฟชั่นและความเชื่อมาบวกรวมกันเป็นธุรกิจแรกของตัวเอง ธุรกิจที่เกิดจากความชอบของตนเอง

"เรื่องหินเสริมมงคลก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ก่อนหน้านี้เวลาไปเมืองนอกเห็นฝรั่งใส่เยอะมาก และตอนนี้เมืองไทยก็ใส่กันเยอะ ก็อยากใส่กับเขาบ้าง แต่ด้วยวัยขนาดนี้ ก็อยากจะหาอะไรพิเศษให้กับตัวเรา ให้เหมาะกับดวงของเรา แล้วหินทุกร้านก็สวยหมด แต่ไม่รู้ว่าหินอะไรจะเหมาะกับผม"

"ประจวบเหมาะไปเจอหมอช้าง หมอช้างก็แนะนำว่าให้เอาดวงมาผูก แล้วค่อยไปหาหินใส่เอง"

"จากตรงนี้ ทำให้ผมรู้ว่า ถ้าทำได้ขนาดนี้ ผมแฮปปี้ เพราะตอบโจทย์เหมาะกับดวงเราที่สุด จึงปรึกษาหมอช้างว่าถ้าะทำธุรกิจหินเสริมมงคลขึ้นมา ขอให้หมอช้างมาเป็นที่ปรึกษาได้ไหม เพราะผมเชื่อว่า ต้องมีคนกลุ่มหนึ่งที่คิดเหมือนผม ซึ่งหมอช้างก็ตกปากรับคำ จึงกลายมาเป็นร้านหินเสริมมงคลเมดูซ่าในที่สุด" วราวุธอธิบาย

ผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ "หินผูกดวง" และ "หิน 12 ราศี"

"หินผูกดวงมีความเป็นยูนีคเฉพาะบุคคลแต่ละเส้นจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากหมอช้างจะนำดวงของแต่ละคนมาดูแล้วหาว่าดาวไหนดี ดาวไหนไม่ดี จากนั้นก็นำมาให้ผมตามหาหินที่เหมาะสมของแต่ละคนมาร้อยให้เป็นเส้นเดียวกัน เปรียบหมอช้างเป็นหมอ และผมเป็นเภสัชกร"

"ขณะที่หิน 12 ราศี เกิดขึ้นจากความต้องการที่เราอยากให้ผู้ที่อยากใส่หินเมดูซ่า แต่งบประมาณไม่ถึงก็สามารถใช้หิน 12 ราศีได้ ซึ่งหมอช้างก็จะคัดเลือกหินที่เหมาะกับราศีแต่ละราศีมาให้"

วราวุธ บอกว่า ถ้าเปรียบหินเสริมมงคลในร้านของเขากับแฟชั่น "หินผูกดวง" เปรียบเสมือน "แฟชั่นโอต์ กูตูร์ " หรือแฟชั่นชั้นสูง ที่สินค้าต้องเมด ทู ออเดอร์ เท่านั้น ขณะที่ "หินเสริมมงคล" เปรียบเสมือน "แฟชั่นเรดดี้ ทูแวร์" ที่ซื้อได้ทันทีไม่ต้องรอ

หรือเหมือนเราดูดวงจากหนังสือราศีต่างๆ แต่ถ้าเราอยากดูละเอียดก็ต้องไปหาหมอดูด้วยตัวเอง

"นอกจากนี้ หินของเรายังเพิ่มความสวยงามสไตล์แฟชั่นเข้าไปด้วย โดยใช้เครื่องประดับต่างๆ ร้อยลงไปร่วมกับหิน เพื่อให้สนความรู้สึกของผู้สวมใส่ จึงนับเป็นการพบกันครั้งแรกของโหราศาสตร์และแฟชั่น"

นอกจากเป็นผู้ขายแล้วยังเป็นผู้สวมใส่ด้วย วราวุธ เล่าถึงประสบการณ์ตรงกับหินนำโชคว่า

"ผมใช้หินผูกดวง ผมเชื่อว่าหินมีพลังเพราะหินเป็นแร่ทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่บนโลกใบนี้มานาน เมื่อผมได้ใส่แล้ว ผมรู้สึกว่า อารมณ์เย็นขึ้น มีจิตใจที่สงบมากขึ้น ส่วนเรื่องโชคลาภก็มีเข้ามาตลอดอยู่แล้ว ทำอะไรก็ง่ายขึ้่น"

นอกจากนี้ ยังเล่าประสบการณ์ของ "เพื่อนสนิท" เจ้าพ่อเพชร “หนึ่ง-สุริยนต์ ศรีอรทัยกุล” แห่ง บิวตี้เจมส์

"คุณหนึ่งซื้อหินผูกดวงไปใส่ ใส่ไปได้สักพัก เขาสามารถปิดการขายส่งออกเพชรได้เยอะมาก รวมทั้งโปรเจ็คที่ลุ้นๆ อยู่ก็ผ่านฉลุย จากเป็นคนที่ไม่ใส่เครื่องประดับติดมือ แต่ตอนนี้ใส่หินผูกดวงติดมือแบบไม่ถอดเลย"

อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นธุรกิจเปิดใหม่ วราวุธจึงเลือกช่องทางจำหน่ายผ่านทาง "อินสตาแกรม" และ "เฟซบุ๊ค" โดยใช้ชื่อร้านว่า "medusastones"

"ที่เปิดช่องทางนี้ เพราะค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ไปได้ทั่วถึงและเข้าถึงลูกค้า แต่ถ้าวันหนึ่งร้านเติบโตไปในทิศทางที่ดี ก็เป็นเรื่องของอนาคต ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ทำในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ" วราวุธกล่าวทิ้งท้าย

บทความจากเส้นทางเศรษฐี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook