ธปท.เผยนาโนไฟแนนซ์เอกชนยื่น14ราย

ธปท.เผยนาโนไฟแนนซ์เอกชนยื่น14ราย

ธปท.เผยนาโนไฟแนนซ์เอกชนยื่น14ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธนาคารแห่งประเทศไทย เผย นาโนไฟแนนซ์มีเอกชนยื่นคำขอ 14 ราย เตรียมส่งต่อให้กระทรวงการคลังอนุมัติปล่อยกู้ภายใน 60 วัน - ประสานแบงก์ดูแลกำชับแบงก์เข้มงวดทั้งระบบ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ สจล.

นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้กำหนดหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ หรือ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งจะเปิดให้เอกชนที่สนใจประกอบธุรกิจยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 58 เป็นต้นไป

โดยจะกำหนดให้ผู้ที่จะประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ดี/อี) ไม่เกิน 7 เท่า ส่วนกรณีที่มีอัตราเกินกว่าที่ ธปท.กำหนดไว้ จะต้องปรับลดลงให้อยู่ในอัตราที่กําหนด ภายในวันที่ 23 ม.ค. 59 โดยจะให้สินเชื่อในวงเงินกู้รายละไม่เกิน 100,000 บาท รวมค่าธรรมเนียมและเบี้ยปรับต่างๆ แล้วได้ไม่เกิน ร้อยละ 36 ต่อปี ซึ่งเบื้องต้นมีผู้สนใจและยื่นขอใบอนุญาตเข้ามาแล้วถึง 14 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งจากนี้หากเอกสารและหลักฐานครบถ้วนทาง ธปท. จะเสนอกระทรวงการคลังอนุมัติปล่อยกู้ได้ภายใน 60 วัน

ทั้งนี้ จากการสำรวจของ ธปท. ในปี 2556 พบว่า ประชาชนเป็นหนี้นอกระบบ 600,000 ครัวเรือน และมี 1.3 ครัวเรือนที่ไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนในระบบได้ ซึ่งเชื่อว่าสินเชื่อนาโนจะช่วยทำให้ครัวเรือนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

ส่วนกรณียักยอกเงินของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่า ทาง ธปท. ได้ประสานกับธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องดำเนินการดูแลการสอบสวนสืบสวน และแนวทางการป้องกันในอนาคต ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับระบบเงินฝากของธนาคารแต่ละแห่งมีความรัดกุม โดยแต่ละธนาคารมีกระบวนการวิธีที่ชัดเจน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของบุคคล เนื่องจากพนักงานไม่ได้ปฏิบัติตามแนวทางกฎเกณฑ์ ซึ่งจากนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติมให้ความสำคัญกับทุกระบบที่เป็นธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ ระบบสินเชื่อ ระบบปฏิบัติการภายใน เกี่ยวกับสารสนเทศ ไอที ทั้งการเข้าตรวจสอบสาขา พร้อมให้ผู้จัดการสาขารายงานและกำชับเรื่องของเงินฝาก และมาตรการป้องกันอื่นๆ ซึ่งทาง ธปท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และประสานงานต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook