ไกรฤทธิ์ชี้ระบบสัมปทานไทยแลนด์3พลัสเหมาะสม

'ไกรฤทธิ์' ชี้ ระบบสัมปทานไทยแลนด์ 3 พลัส เหมาะสมกับไทย รัฐได้ประโยชน์เพิ่มมากกว่าเดิม ชี้ ทุกฝ่ายควรเร่งหาข้อสรุปเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบ 21

นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน และอดีตอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวถึงการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ซึ่งจะใช้ระบบสัมปทานไทยแลนด์ 3 พลัส ว่า ระบบดังกล่าวได้มีการปรับเปลี่ยนอัตราผลประโยชน์ส่งเข้ารัฐที่จะเพิ่มขึ้นจากการเรียกเก็บผลประโยชน์เพิ่มเติม เมื่อเอกชนผลิตได้ตามเกณฑ์ที่รัฐกำหนด (Production Bonus) โดยระบบดังกล่าวมีความเหมาะสมแล้วกับรูปแบบสัมปทานเดิมของประเทศไทย ซึ่งไม่มีความแตกต่างจากระบบแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่สภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงาน (สปช.) เสนอให้ใช้ในการเปิดสัมปทานรอบใหม่

อย่างไรก็ตาม ระบบ PSC ในไทย ยังต้องปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ กฎหมายการเก็บภาษีเงินได้จากกำไรสุทธิ การกำหนดราคาซื้อขายปิโตรเลียมระหว่างรัฐและเอกชน และความเป็นเจ้าของปิโตรเลียม ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา และอาจส่งผลให้การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมของไทยรอบใหม่นี้ ล่าช้าออกไปอีก จากเดิมที่ล่าช้ามาแล้วกว่า 5 ปี และจะส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล และเกิดความเสี่ยงด้านพลังงานแก่ประเทศ โดยทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ ทุกฝ่ายต้องเร่งหาข้อสรุปเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในภายหลัง ทั้งนี้ ระบบสัมปทานถูกใช้ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา นอร์เวย์ แอลจีเรีย ซึ่งได้รับการยอมรับด้านปิโตรเลียม