ลุ้นระทึก..."ล้ม-ไม่ล้ม" ปตท.ขายหุ้น "บางจาก"

ลุ้นระทึก..."ล้ม-ไม่ล้ม" ปตท.ขายหุ้น "บางจาก"

ลุ้นระทึก..."ล้ม-ไม่ล้ม" ปตท.ขายหุ้น "บางจาก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประเด็น ร้อนที่กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในวงการพลังงานขณะนี้คือการขายหุ้น บมจ.บางจากปิโตรเลียม จำนวน 27.22% ของ บมจ.ปตท. ด้วยว่าคณะกรรมการ ปตท. มีมติขายหุ้นดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 หรือเพียง 21 วัน หลังจากที่บอร์ดชุดดังกล่าวแต่งตั้งให้ "ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์" เป็นประธานคนใหม่

การเข้ามาของ "ปิยสวัสดิ์" เกี่ยวข้องกับการขายหุ้นบริษัทบางจากฯอย่างไร ?

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจจากอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ใหม่ ๆ ช่วงนั้นเกิดความพยายามที่จะ "ปฏิรูป" พลังงานกันอย่างคึกคัก โดย 1 ในกลุ่มปฏิรูปที่สำคัญคือ "กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน" ซึ่งมี ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นแกนนำเป็นความจริงที่ว่า การก้าวเข้ามาของกลุ่มปฏิรูปพลังงานฯ ได้รับการสนับสนุนจากข้าราชการกระทรวงพลังงาน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ดร.คุรุจิต นาครทรรพ, ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร, นายเมตตา บันเทิงสุข หรืออย่างนายมนูญ ศิริวรรณ อดีตรองกรรมการผู้จัดการบริษัทบางจากฯ และนายอนนต์ สิริแสงทักษิณ อดีตประธานเจ้าหน้าที่ บมจ.ปตท.สผ. และ PTTGCโดยผู้สนับสนุนส่วนใหญ่มีแนวคิด

คน ละขั้วกับ "กลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย" ของ "รสนา โตสิตระกูล" ซึ่งต้องการ"ทวงคืน" บริษัท ปตท.ให้กลับมาเป็นของรัฐ จึงไม่น่าแปลกใจที่ 1 ในข้อเสนอการปฏิรูปพลังงานของกลุ่มเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท ปตท.จะมีเพียงการลดการ "ผูกขาด" ของบริษัท ปตท.ลง ด้วยการขายหุ้นทั้งหมด (Divest) ของ ปตท.ที่ถืออยู่ในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก กับโรงกลั่นน้ำมัน SPRC ออกไป

และที่สำคัญคือ ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการ "ยอมรับ" เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือเท่ากับว่า ได้รับ "ไฟเขียว" จาก คสช.ให้ขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากที่ ปตท.ถืออยู่ทั้งหมดออกไปได้

ข้อมูลล่าสุดระบุถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทบางจากฯ 10 อันดับแรกล่าสุดปรากฏ บริษัท ปตท.ถืออยู่ 27.22%, กระทรวงการคลัง 9.98%, ไทยเอ็นวีดีอาร์ 4.71%, State Street Bank Europe 3.16%, เอไอเอ คอมพานี 2.63%, กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล 2.61%, สำนักงานประกันสังคม 1.93%, Deutsche Bank AG Singapore 1.82%, HSBC (Singapore) 1.50% และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 1.47%รวมเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,376 ล้านหุ้น ในจำนวนนี้ ปตท.ถือหุ้นเป็นอันดับ 1 จำนวน 374 ล้านหุ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่บอร์ด ปตท.มีมติให้ขายหุ้นในโรงกลั่นน้ำมันบางจากออกไป ก็ปรากฏ "ชื่อ" ของบริษัทและบุคคลที่ "สนใจ" จะเข้ามาซื้อหุ้นบางจากกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของนายพิชัย ชุณหวชิร อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการเงินและบัญชีองค์กร บริษัท ปตท., บริษัทเมอร์เมดมาริไทม์ของกลุ่มนายประยุทธ์ มหากิจศิริ, บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG และ บริษัท Nido Petroleum ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ บริษัทบางจากตามติดมาด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า บุคคล และบริษัทเหล่านี้ (ยกเว้น Nido Petroleum) ล้วน "เติบโต" ขึ้นมาในสมัยรัฐบาลของ "ครอบครัวชินวัตร" และวิพากษ์วิจารณ์เลยเถิดไปถึงขั้นที่ว่า ดีลการซื้อขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันบางจากในครั้งนี้ "จะไม่มีทางสำเร็จ" เมื่อ "ผู้ใหญ่" ที่เคย "ไฟเขียว" ตกใจกับรายชื่อผู้สนใจที่จะเข้ามาซื้อหุ้นบางจาก

ด้านหนึ่งพนักงาน บริษัทบางจากฯเองก็มีความเคลื่อนไหวในความพยายามเพื่อที่จะส่ง "สัญญาณ" ให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เห็นว่า การขายหุ้นบางจากออกไปในช่วงนี้ถือว่า "ถูกอย่างน่าใจหาย" ยกตัวอย่าง หากขายไปในราคา 35 บาท (ราคาปัจจุบัน 32.50 บาท/หุ้น) ก็จะใช้เงินประมาณ 13,000 ล้านบาท แลกกับการได้ครอบครองโรงกลั่นน้ำมันดิบขนาด 120,000 บาร์เรล/วัน ที่ใช้เงินลงทุนไปมากกว่า 100,000 ล้านบาท พร้อมด้วย Network สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง รวมถึงโรงงานผลิตไบโอดีเซล, โรงงานผลิตเอทานอล, โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ และบริษัทขุดเจาะน้ำมัน

ที่สำคัญก็คือ "ผู้ซื้อ" จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งที่จะก้าวเข้ามา "คุม" ธุรกิจทั้งหมดของบางจาก ขณะที่รัฐบาลคงเหลือการถือหุ้นผ่านกระทรวงการคลังเพียง 9.98% เท่านั้น

เสียงจากผู้เกี่ยวข้อง

นาย ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การซื้อขายหุ้นบริษัทบางจากฯจำนวน 27.22% ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ (นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต) ล่าสุดยังไม่มีการเปิดซองราคา พร้อมกับยืนยันว่า "การซื้อขายหุ้นครั้งนี้ไม่ล่มแน่นอน"

ด้าน นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. กล่าวถึงการซื้อหุ้นบางจากเป็นเรื่องค่อนข้าง "อ่อนไหว" ที่จะให้ข้อมูล และเรื่องนี้ตกเป็นกระแสข่าวมากเกินไป ขั้นตอนทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ

"ผมยังไม่ทราบข้อมูลว่าจะ มีรายใดบ้างที่จะเข้ามาซื้อขายหุ้น ขอให้ขั้นตอนทั้งหมดแล้วเสร็จ พร้อมทั้งมีการนำเสนอคณะกรรมการบริหาร ปตท.ก่อน จึงจะชี้แจงการซื้อขายหุ้นอย่างเป็นทางการได้"

ในขณะที่ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ ปตท.ลดการถือหุ้นในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันลงเพื่อลดการผูกขาด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าการซื้อขายหุ้นบางจาก เพราะขั้นตอนการซื้อขายหุ้นเป็นการดำเนินการโดยภาคเอกชนคือ ปตท. ซึ่งกระทรวงพลังงานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนนี้ "ดีลซื้อขายนี้จะล่มหรือไม่ล่ม ผมยังไม่ได้รับรายงาน"

ส่วนคำถามที่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้หรือไม่ "ท่านประยุทธ์ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ และไม่เคยถามเรื่องความคืบหน้าในการซื้อขายหุ้นบางจากกับผม" นายณรงค์ชัยกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook