กรมเจ้าท่า ตั้งงบปี 58 2,200 ล้านบาท
กรมเจ้าท่า ตั้งงบปี 58 2,200 ล้านบาท เดินหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 17 แห่ง เผย ก.พ. 58 ชัดเจนค่าโดยสารเรือด่วน
นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงการดำเนินงานของกรมเจ้าท่า ว่า กรมเจ้าท่ามีการกำหนดแผนดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง วงเงินรวม 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาท่าเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 17 แห่ง วงเงิน 70 ล้านบาท โดยเอาแนวคิดการใช้พื้นที่ของสถานนีรถไฟฟ้ามาปรับปรุงและจะกำหนดให้ภาคเอกชนสามารถมีสิทธิ์เข้ามาบริหารและหารายได้เชิงพาณิชย์จากพื้นที่ได้ ซึ่งบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยามีความสนใจที่จะเข้าดำเนินการ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมธนารักษ์ หากกรมธนารักษ์เห็นชอบท่าเรือแรกที่จะดำเนินการ จะเป็นท่าเรือปิ่นเกล้า อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าจะดำเนินการปรับปรุงได้แล้วเสร็จจำนวน 8 ท่า วงเงิน 14 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งในแม่น้ำป่าสักและสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง วงเงิน 2,070 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ รวมถึงการจ้างเหมาขุดลอกร่องน้ำทางเข้าท่าเรือกรุงเทพร่องที่ 2 วงเงิน 60 ล้านบาท อยู่ระหว่างการทบทวนเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง TOR และราคากลางเพื่อประกวดราคาครั้งใหม่ เนื่องจากมีผู้ยื่นเอกสารมาเพียง 1 ราย
นายจุฬา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาปรับค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา กลับไปรวบรวมข้อมูลเรื่องต้นทุนและค่าแรง จากนั้นให้นำกลับมาเสนออีกครั้ง ส่วนจะมีการปรับขึ้นหรือไม่ ขอพิจารณาข้อมูลของผู้ประกอบการอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ ได้สั่งการเพิ่มเติมให้เรือประเภทอื่นที่ยื่นข้อเรียกร้องปรับขึ้นราคาส่งข้อมูลมาให้พิจารณาด้วย เช่น เรือข้ามฟาก ซึ่งคาดว่าภายในเดือนนี้จะสามารถรวบรวมข้อมูลของผู้ประกอบการเรือได้ทั้งหมด และในเดือนกุมภาพันธ์ จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับราคาค่าเรือโดยสารในแต่ละประเภท
ทั้งนี้ ปัญหาที่ผู้ประกอบการประสบอยู่คือเรื่องปัญหาต้นทุนเรื่องค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นจากปี 2554 อย่างมาก และราคาน้ำมันที่มีผลต่อต้นทุนถึงร้อยละ 40