น้ำมันดิบรูดเหลือ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ5ปี ดาวโจนส์ร่วง 268 จุด ทองลง 2.60 เหรียญ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา(10 ธ.ค.) ปรับลดลงแรง หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กร่วงลงต่ำสุดในรอบ5ปี หลังนักลงทุนทุบขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปค คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบในปีหน้าจะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี
หลังปิดตลาด ดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 17,533.15 จุด ลดลง 268.05 จุด หรือ -1.51% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ระดับ 4,684.03 จุด ลดลง 82.44 จุด หรือ -1.73% และดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 2,026.14 จุด ลดลง 33.68 จุด หรือ -1.64%
ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX)ปรับลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี โดยราคาส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.88 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดตลาดที่ระดับ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือ EIA ออกมาเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 64.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(COMEX)ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดตลาดที่ระดับ 1,229.40 ดอลลาร์/ออนซ์