รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาด ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดบวก 5.92% ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ดัชนีฟื้นตัวขึ้นได้ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศประกอบกับมีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงานและแบงก์ หนุนให้ดัชนีปิดระดับสูงสุดรอบเกือบสัปดาห์ รับข่าวเชิงบวกจากยุโรป สิ้นวันนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ   แนวโน้มตลาด ตลาดรับข่าวดีจากทางฝั่งยุโรปในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดจากวิกฤตหนี้ โดยเข้าไปช่วยอุ้มธนาคารต่างๆที่อาจเกิดปัญหาได้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น แม้วานนี้ ECB จะยังไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายก็ตาม ในเชิงเทคนิคตลาดมีแนวต้านที่ประมาณ 940-950 จุด ถ้าซื้อหุ้นวันนี้ก็ต้องเล่นสั้นเท่านั้น เพราะวานนี้หุ้นขึ้นมาแรงแล้ว อาจมีแรงขายทำกำไรได้เช่นกัน ปัจจัยตลาดในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางยุโรป ประกาศว่าจัดหาสภาพคล่องให้กับธนาคารในยุโรปที่ประสบปัญหาการระดมทุนในตลาดอินเตอร์แบงก์ นอกจากนี้ อีซีบียืนยันว่าจะเข้าซื้อสินทรัพย์มูลค่า 4 หมื่นล้านยูโร ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้ยุโรปจะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร คาดตลาดยังสามารถรีบาวด์ต่อได้ แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไร   คมสันต์ ปรมาภูติ Tel. (662) 618-1333   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด IMF ยอมรับไม่สามารถใช้เงินทุนแทรกแซงตลาดพันธบัตรโดยตรง: นายอันโตนิโอ บอร์เจส ผู้อำนวยการแผนกยุโรปของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า IMF อาจ \"เข้าลงทุนร่วมกับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป” และ \"การลงทุนใดๆ ก็ตามที่ IMF ทำในสเปนหรืออิตาลีจะตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในเรื่องที่ว่า ประเทศเหล่านี้ดำเนินนโยบายในแนวทางที่ถูกต้อง มีความสามารถในการชำระหนี้ และดำเนินมาตรการทั้งหมดที่ควรทำ\" รวมทั้ง \"เนื่องจาก EFSF มีความสามารถในการลงทุนในตลาดรองในปัจจุบัน IMF จึงสามารถลงทุนร่วมกับ EFSF ในการสนับสนุนตลาดตราสารหนี้ในอิตาลีและสเปนพร้อมกับความน่าเชื่อถือที่เพิ่มมากขึ้น\" อย่างไรก็ดี นายบอร์เจสแถลงในเวลาต่อมาว่า \"IMF สามารถปล่อยกู้ทุนทรัพย์ของตนเองแก่ประเทศต่างๆ แต่ไม่สามารถใช้ทรัพยากรเหล่านี้ในการแทรกแซงตลาดพันธบัตรโดยตรง\" และ \"กระบวนการปล่อยกู้ใดๆ ที่อยู่นอกเหนือไปจากสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน ต้องอาศัยโครงสร้างทางกฎหมายที่ต่างออกไป และอาศัยแหล่งระดมทุนที่ต่างออกไป และ IMF ยังไม่ได้หารือประเด็นดังกล่าวกับสมาชิก\" ซึ่งหนึ่งในทางเลือกที่เขาเคยพูดถึงคือ การที่ IMF จะเปิดวงเงินสินเชื่อให้สเปนและอิตาลี โดยจะทำเรื่องนี้พร้อมกับ EFSF ซึ่ง EFSF มีแนวโน้มจะได้รับมอบอำนาจในการเปิดวงเงินสินเชื่อเพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้าและอำนาจในการแทรกแซงตลาดพันธบัตรในช่วงปลายสัปดาห์หน้า เมื่อรัฐสภาของประเทศสมาชิกยูโรโซนทุกประเทศให้สัตยาบันรับรองร่างกฎหมายเพิ่มอำนาจแก่ EFSF นอกจากนี้ IMF จะเข้าร่วมอย่างแน่นอนในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ โดยตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า IMF ยังคงเชื่อมั่นว่ากรีซจะดำเนินการตามเดิม กรีซสามารถกำหนดนโยบายที่ถูกต้อง และกรีซจะมีความสามารถในการชำระหนี้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน IMF คาดว่ายุโรปต้องใช้เงิน 1-2 แสนล้านยูโรในการเพิ่มทุนแก่ธนาคารเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน และยุโรปควรกำหนดแผนที่ครอบคลุมสำหรับทั้งทวีป อย่างไรก็ตาม ตัวเลขขนาด 1-2 แสนล้านยูโร เป็นระดับที่น้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดของตลาดทุนยุโรป และทุนทรัพย์ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และ IMF ไม่คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ EFSF นอกจากนี้ IMF ระบุว่ามาตรการปรับลดงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลและโครงการรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขของ IMF ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว เพราะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเกิดจากการสูญเสียความเชื่อมั่น ซึ่งมีสาเหตุจากความอ่อนแอของธนาคารพาณิชย์และหนี้สินที่ระดับสูงในภูมิภาค เยอรมนีพร้อมอัดฉีดภาคธนาคาร ขณะหนุนกรีซอยู่ในยูโรโซน: นางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าวว่า รัฐบาลเยอรมนีพร้อมจะจัดสรรเงินทุนแก่ธนาคารของเยอรมนีหากมีความจำเป็น โดยรัฐมนตรีคลังยุโรปเห็นพ้องกันว่าจะปกป้องธนาคารยุโรปขณะที่มีความไม่มั่นใจมากขึ้นว่าจะมีการดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบสองต่อกรีซตามแผนที่วางไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นางเมอร์เคลกล่าวว่ากรีซจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนต่อไปและได้รับ \"โอกาสในการฟื้นตัวอีกครั้ง\" ขณะที่รัฐสภาของประเทศสมาชิกยูโรโซนแต่ละประเทศต้องอนุมัติร่างกฎหมายเสริมความแข็งแกร่งแก่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เหมือนที่เยอรมนีได้ทำไปแล้ว เบลเยียมประกาศคุ้มครองเงินฝากลูกค้า \"เด็กเซีย\" ขณะยันแบงก์ไม่ล้ม: ทางการเบลเยียมและฝรั่งเศสประกาศว่าจะค้ำประกันการให้เงินทุนอุดหนุนธนาคาร โดยผู้ฝากเงินชาวเบลเยียมจะได้รับการคุ้มครองเงินฝากที่มากกว่าการค้ำประกันเงินฝากในปัจจุบันที่ไม่เกิน 100,000 ยูโร (133,095.5 ดอลลาร์) เนื่องจากจะไม่ปล่อยให้เด็กเซียล้มละลาย และค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือธนาคารเด็กเซียจะไม่กระทบอันดับความน่าเชื่อถือที่ AAA ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคาร และเบลเยียมไม่ต้องการแบกภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการช่วยเหลือเด็กเซีย จึงอาจมีการแปรรูปเด็กเซียมาเป็นของรัฐ ขณะที่บอร์ดบริหารของเด็กเซียจะประชุมกันในวันที่ 8 ต.ค. นี้เพื่อลงมติต่อแผนแยกธุรกิจธนาคาร   ปองรัตน์ รัตนะตวณานนท์ Tel. (662) 618-1336   รายงานวันนี้ หุ้น: TISCO          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 44.00 เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิสำหรับ TISCO ในปี 2554 และ 2555 ลง 4% และ 8% ตามลำดับเพื่อสะท้อนความเสี่ยงจากน้ำท่วมและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/54เติบโต 3% QoQ เราคาดว่าจะตั้งสำรองหนี้ฯน้อยลงในไตรมาส 3/54 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงเนื่องจากการขยายพอร์ทสินเชื่อไปยังเอสเอ็มอีและสินเชื่อธุรกิจ   นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม Tel. (662) 618-1341   หุ้น: PTT          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 379.00 วานนี้เราเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์เพื่อแนะนำ CEO คนใหม่ของ PTT (ดร. ไพลิน ชูโชติถาวร) ดร. ไพลิน ชูโชติถาวร มีวิสัยทัศน์การการคงการเติบโตที่แข็งแกร่งของกลุ่ม PTT เพื่อให้สร้างความยั่งยืนในระยะยาว CEO มีจุดมุ่งหมายในการสร้างการกำกับดูแลกิจการของกลุ่มและกรอบระเบียบใหม่ CEO ให้แนวทางว่าการชะลอตัวของ GDP โลกจะส่งผลกระทบต่อกำไรในไตรมาส 3/54 ในขอบเขตที่จำกัดและราคาน้ำมันไม่น่าจะปรับลดจากระดับปัจจุบัน   นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์ Tel. (662) 618-1340   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis Security: IVL Position: ซื้อหรือถือต่อ เป้าหมาย: 30/32 Stop loss: 26.5 Reason: ปรับตัวขึ้นตามคาด วันนี้ลุ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน 28 โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 30-32   Security: PTT Position: ซื้อหรือถือต่อ เป้าหมาย: 285/290 Stop loss: 270 Reason: ปรับตัวขึ้นตามคาดและอยู่ในกลุ่มหุ้นนำตลาด ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 285-290   Security: TOP Position: ซื้อหรือถือต่อ เป้าหมาย: 58/60 Stop loss: 54.25 Reason: ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และรีบาวด์ขึ้นได้มากกว่าตลาด มองจุดต้านที่ 58-60   Security: SCC Position: ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย: 280/290 Stop loss: 260 Reason: ปิดทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน พร้อมกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น มองการปรับขึ้นไปที่เป้าหมาย 280-290   Security: BANPU Position: ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย: 580/590 Stop loss: 540 Reason: ทะลุแนวต้านระยะสั้น 550 ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคส่งสัญญาณดีดขึ้นจากภาวะ Oversold และตัดขึ้นเป็นบวก   Security: KTB Position: ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย: 15/15.5 Stop loss: 13.8 Reason: ราคาหุ้นปรับตัวลงมาลึกมากเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นแบงค์ขนาดใหญ่ และมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้แรงจาก Oversold และภาวะตลาดโดยรวม   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 7 ต.ค. 2554

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook