ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 74.70 จุด
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060

    ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 74.70 จุด

    2011-11-14T15:37:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิด เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) ลดลง 74.70 จุด หรือ 0.61% แตะที่ 12,078.98 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 12.07 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 1,251.78 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 21.53 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 2,657.22 จุด ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3 พันล้านหุ้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของอิตาลี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในการประมูลเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงของยูโรโซน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย โดยนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากผลการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีในวันจันทร์ ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.29% สูงกว่าระดับ 5.32% ในการประมูลเมื่อเดือนที่แล้ว และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่อิตาลีเข้าร่วมก่อตั้งกลุ่มยูโรโซน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.76%  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความ สามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลอิตาลี นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลียังสูงขึ้น แม้ว่านายมาริโอ มอนติ อดีตคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลีก็ตาม นักวิเคราะห์กังวลว่า หากอิตาลีไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบ เนื่องจากเศรษฐกิจอิตาลีมีขนาดใหญ่ และรัฐบาลอิตาลีถือเป็นรัฐบาลที่มีภาระหนี้สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 6% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลสเปนจะต้องแบกรับภาระผูกพันในการจ่ายหนี้สาธารณะมูลค่า มหาศาล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศกลุ่มประเทศยูโรโซน หดตัวลง 2.0% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายนในกลุ่มประเทศอียู 27 ประเทศ ลดลง 1.3% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. วันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. และธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลัง ผลิตเดือนต.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง เดือนต.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนต.ค.