ธกส.จ่ายเงินชาวนาวันแรกแล้ว8จว.รอรับคึกคัก
ชาวนารอรับเงินช่วยเหลือ1,000บาท/ไร่ ธ.ก.ส.ลพบุรี คึกคัก วันแรกนำร่อง8จังหวัด เอกสารครบเงินถึงมือ3 วัน ที่ พิจิตร วันนี้จ่าย 1,344 ราย เป็นเงินกว่า 18 ล้านบาท ส่วนขอนแก่นจ่ายเงินชาวนางวดแรกกว่า126ล้านบาท
บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขา ลพบุรี ในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคักโดยมีเกษตรกรผู้ทำนาได้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อเตรียมรอรับการจ่ายเงินในรอบแรกในโครงการให้ความช่วยเหลือของทางรัฐบาลในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท ในวงเงินไม่เกิน 15 ไร่ หรือคิดเป็นเงิน 15,000 บาท ให้กับเกษตรกรผู้ทำนา
โดยทางด้าน นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยทุกครัวเรือน จำนวนทั้งสิ้น 3.49 ล้านครัวเรือน พื้นที่ปลูกข้าวนาปีจำนวน 63.8 ล้านไร่ คิดเป็นวงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยการให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท แก่ชาวนาที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเปิดบัญชีไว้กับ ธ.ก.ส. ซึ่งมีที่ดินทำกินไม่เกิน 15 ไร่ และชาวนาที่มีที่ดินทำกินเกิน 15 ไร่ให้ช่วยเหลือครอบครัวละ 15,000 บาท ธ.ก.ส. ได้เริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนาที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วในวันนี้ ใน 8 จังหวัดนำร่อง ประกอบไปด้วย จังหวัดลพบุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ มหาสารคาม พิจิตร กำแพงเพชร และพิษณุโลก
สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้วยื่นเอกสารจะได้รับเงินภายใน 3 วัน ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรในวันแรกทั้งสิ้น 14,311 ราย วงเงิน 176.1ล้านบาท พร้อมคาดว่าจะจ่ายเงินให้เกษตรกรครบภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
พิจิตร นำร่องจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา
วันนี้ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พล.ต.ไสว พลการ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ จังหวัดพิจิตร นายขวัญชัย เกิดขันหมาก ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดพิจิตร ได้ร่วมกันทำพิธีจ่ายเงินเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขา อ.โพทะเล เพื่อช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งมีเป้าหมายว่าจะมีชาวนามาขึ้นทะเบียน 52,470 ราย ซึ่งเป็นสถิติจากฤดูกาลเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ มีเกษตรกรมาลงทะเบียนแล้ว 49,183 ราย และมีการติดประกาศพร้อมจะเข้าสู่ระบบมาตรการที่จะได้รับเงิน 39,597 คน
โดยในวันนี้ ถือเป็นวันปฐมฤกษ์มีการจ่ายเงินให้กับชาวนา 1,344 ราย คิดเป็นเงิน 18 ล้านบาท ใน 15 สาขา ของธนาคาร ธ.ก.ส.ส่งผลให้บรรยากาศของการรับเงินเป็นไปอย่างสดชื่นและคึกคัก
ขอนแก่นจ่ายเงินชาวนางวดแรก กว่า 126 ล้านบาท
นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายธนู โตสัจจะ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ร่วมมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 57/58 ตามนโยบายของรัฐบาลในการจ่ายเงิยช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกครัวเรือน ตามพื้นที่ปลูกจริงไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ โดยทำการจ่ายเงินวันนี้เป็นวันแรกที่ ธ.ก.ส.สาขาหนองเรือ โดยมีเกษตรกรได้รับเงินตามโครงการดังกล่าว 10,740 ครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 126,939 ไร่ วงเงินชดเชยประมาณ 126,939,000 บาท
นายธนู กล่าวว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในปีการผลิต 57/58 ทั้งจังหวัดรวมกว่า 2,340,000 ไร่ ซึ่งจะต้องจ่ายเงินชดชเยรวมกว่า 2,340 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้กำชับให้ ธ.ก.ส.ทุกสาขา เร่งสำรวจเกษตรกรที่เข้าหลักเกณฑ์ตามโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อรับการอนุมัติเงินช่วยเหลือดังกล่าวให้ครบทุกหลังคาเรือน ตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดทั้งหมด
ธ.ก.ส.ลพบุรีคึกชาวนารอรับเงินช่วย1,000บาท
บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขา ลพบุรี ในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคักโดยมีเกษตรกรผู้ทำนาได้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อเตรียมรอรับการจ่ายเงินในรอบแรกในโครงการให้ความช่วยเหลือของทางรัฐบาลในอัตรา ไร่ละ 1,000 บาท ในวงเงินไม่เกิน 15 ไร่ หรือคิดเป็นเงิน 15,000 บาท ให้กับเกษตรกรผู้ทำนา
โดยทางด้าน นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เดินทางมาเป็นประธานในการมอบเงินในครั้งนี้ การมอบเงินดังกล่าวนั้นเป็นนโยบายเบื้องต้นโดยจะเริ่มต้นใน 8 จังหวัดนำร่องก่อน ซึ่งจะมีการแจกจ่ายเงินก่อนจังหวัดอื่น ๆ พร้อมกันทั่วประเทศในลำดับถัดไป ซึ่งเกษตรกรยังคงสามารถขึ้นทะเบียนได้และจะสามารถรับเงินหลังยื่นเอกสารได้ภายใน 3 วัน
กำแพงเพชรชาวนารอรับเงินคึกวันแรกจ่าย42ล.
นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาตามนโยบายของรัฐบาล ไร่ละ 1,000 บาท รายละเกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 15,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากราคาผลผลิตที่ตกต่ำ นอกจากนั้น ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาพรวมในประเทศด้วย
สำหรับพื้นที่ จ.กำแพงเพชรมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้จำนวน 46,000 ราย เป็นเงินที่ ธ.ก.ส. ต้องจ่ายให้ชาวนาประมาณ 80 ล้านบาท แต่ในวันแรกทาง ธ.ก.ส. จะจ่ายให้กับชาวนาจำนวน 2,990 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 42 ล้านบาท
โดยตั้งแต่เช้าเกษตรกรที่มีชื่อได้รับเงินช่วยเหลือมารอกันตั้งแต่เช้า ทาง ธ.ก.ส. ได้จัดให้เกษตรกรรับเงินตามคิว จากการสอบถามชาวนาต่างบอกว่าดีใจมากที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เห็นความสำคัญของชาวนา