ผลสำรวจพบประชาชนในอาเซียนกำลังรวยขึ้น

ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ประชาชนในภูมิภาคอาเซียนมีรายได้สูงและมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อันเป็นผลมาจากการที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาเป็นภูมิภาคที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากที่สุดในโลกแทนที่จีนอีกครั้ง ผนวกกับการบูรณาการทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาค
CLSA Asia-Pacific Markets บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย ออกมาคาดการณ์ว่าประชาชนในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะมีรายได้สูงขึ้นเรื่อยๆ
และจะมีอัตราเศรษฐีเกิดใหม่มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของอีกหลายสถาบัน ที่ในขณะนี้ต่างจับจ้องมาที่ภูมิภาคอาเซียน ในฐานะกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและดึงดูดนักลงทุน มากที่สุดในโลก
รายงานของ CLSA ระบุว่า อัตราของบุคคลที่มีสินทรัพย์สำหรับการลงทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในภูมิภาคอาเซียน อาจเพิ่มขึ้นจาก 193,000 คนในปัจจุบัน เป็นจำนวนมากถึง 400,000 คน
ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้อาเซียนมีเม็ดเงินที่พร้อมสำหรับการนำไปลงทุนกว่า 1,800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 54 ล้านล้านบาท
ตัวเลขนี้ ยังไม่รวมถึงชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะหันมาประกอบธุรกิจหรือลงทุนในประเทศบ้านเกิดมากขึ้น เรื่อยๆ โดยเฉพาะในสิงคโปร์
อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดัง กล่าว เกิดจากการที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลับมาเป็นภูมิภาคที่ดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติอีกครั้ง หลังจากจีนซึ่งก่อนหน้านี้เป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก
เริ่มเผชิญกับปัญหาค่าแรงที่แพงขึ้นจนสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดโลก ในขณะที่อินเดียซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงเกินไปสำหรับนักลงทุนจากต่างชาติ
นอกจากนี้ การที่กลุ่มประเทศอาเซียนได้มีการบูรณาการทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ และยังมีแผนการที่จะลดกำแพงการค้า การลงทุน รวมถึงเปิดเสรีระหว่างพรมแดนในปี 2558 ยังเอื้อต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภายในภูมิภาค รวมทั้งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของอาเซียนในสายตานักลงทุน อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูล VoiceTV