ปีนี้เฮกินเจ2รอบ สะพัด4หมื่นล้าน ผู้ผลิตอาหารคึก

ปีนี้เฮกินเจ2รอบ สะพัด4หมื่นล้าน ผู้ผลิตอาหารคึก

ปีนี้เฮกินเจ2รอบ สะพัด4หมื่นล้าน ผู้ผลิตอาหารคึก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธุรกิจ เด้งรับเทศกาลกินเจ คาดเม็ดเงินสะพัด 4.2 หมื่นล้าน มั่นใจปีนี้จัดงาน 2 ช่วงตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.ถึงต้นพ.ย. พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หันมากินเจเพื่อสุขภาพ-กินเพื่อทำบุญ ช่วยเพิ่มโอกาสการขายมหาศาล ซัพพลายเออร์เพิ่มสารพัดเมนูรับดีมานด์ทะลัก

เทศกาลกินเจในปีนี้ที่ มี 2 ช่วงตามการนับแบบจีน ที่มีเดือน 9 สองครั้ง ในรอบ 132 ปี คือ รอบแรก ระหว่างวันที่ 24 กันยายน-2 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตามปกติของทุก ๆ ปี และรอบ 2 ที่จะเสริมเข้ามาในช่วงวันที่ 24 ตุลาคม-1 พฤศจิกายน กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของทั้งผู้ประกอบการค้าปลีก และผู้ผลิตสินค้าหรือซัพพลายเออร์ จากตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่การจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลกินเจขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง


นาย ยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า เทศกาลกินเจปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าการใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 42,000 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มคนทานเจที่มีเพิ่มขึ้น นอกจากผู้ถือศีลกินเจแล้วยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมากินเจมากขึ้น เพราะต้องการทำบุญและใส่ใจสุขภาพ ประกอบกับแนวโน้มการทานเจในตลอดช่วงเทศกาลมีสัดส่วนสูงขึ้น รวมถึงแนวโน้มของคนไทยที่หันมาทานอาหารเจนอกเทศกาลมากขึ้น

"ปัจจุบัน การทานเจไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของประเพณี แต่เกิดจากความเชื่อว่าการทานเจเป็นบุญอย่างหนึ่ง และเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อาทิ การทานเจในวันพระ ซึ่งมีถึง 50 วันต่อปี นอกจากนี้มีวันเกิด วันเข้าพรรษา การทานเจเพื่อแก้บนตามความเชื่อ เป็นต้น เมื่อบวกกับการมีเทศกาลเจ 2 ครั้งสำหรับปีนี้ จึงเท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสการขายให้มีมากขึ้น"

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าพฤติกรรมการทานอาหารเจจะเป็นการซื้อสำเร็จรูปตามร้านค้าด้วยสัดส่วน ถึง 57% ซื้อมาทำกินเองประมาณ 27% และทานที่โรงเจ 15% แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบและสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อ คาดว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมารับประทานอาหารเจสำเร็จรูปมากกว่าซื้อมาประกอบ อาหารเอง เพราะสะดวกสบายและประหยัดกว่า จึงเป็นโอกาสของร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และมีสาขาทั่วประเทศ เพื่อ รองรับความต้องการดังกล่าว เซเว่นฯจึงจัดแคมเปญ "เจทุกมื้อไม่ซ้ำ" ด้วยการเพิ่มเมนูใหม่ ๆ ให้มีวาไรตี้ อาทิ ข้าวผัดห้าเซียนเจ ข้าวคะน้าปลาเค็มเจ ข้าวพะโล้เจมีเมนูเจรวม 400 รายการ เพิ่มจากปีก่อนที่มี 300 รายการ และตั้งเป้ายอดขายข้าวกล่องแช่แข็งเจไว้ 6.2 ล้านกล่อง โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 29-35 บาท เท่ากับปีก่อน

"เพราะต้องการเน้น วอลุ่มและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จะเริ่มวางสินค้าและโฆษณาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป และปีนี้น่าจะมียอดขายสินค้าเจเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตั้งเป้ายอดขายไว้กว่า 600 ล้านบาท"นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการ ฝ่ายกิจการ บริษัท เทสโก้ โลตัส จำกัด ปีนี้คาดว่าเทศกาลเจจะคึกคักกว่าทุกปี เพราะมีการจัด 2 รอบ ประกอบกับเทรนด์ของคนรักษ์สุขภาพที่มีมากขึ้น ตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไปจะเริ่มตกแต่งสาขาเพื่อสร้างบรรยากาศให้ คึกคัก พร้อมวางจำหน่ายของแห้งก่อน จากนั้นจะเริ่มทยอยวางสินค้าประเภทอาหารพร้อมรับประทาน โดยได้เตรียมสต๊อกสินค้าทั้งกลุ่มวัตถุดิบ ผัก ผลไม้ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการและเน้นกลุ่มสินค้าออร์แกนิกปลอดสาร

ด้าน ความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน ล่าสุดก็เริ่มมีความคึกคักขึ้น โดยหลายค่ายต่างเปิดตัวเมนูที่หลากหลายเข้ามาเป็นทางเลือก อาทิ เอส แอนด์ พี เปิดตัว 2 เมนูราคา 49 บาท คือ ข้าวแกงเขียวหวานและข้าวผัดพริก และมีเมนูราคา 75 บาท เพิ่มเข้ามา อาทิ บะหมี่ผัดซอสญี่ปุ่น บะหมี่ผัดโมโรเฮยะ สปาเกตตีครีมไวส์ซอสเห็ด ลาบวุ้นเส้นเห็ด ข้าวผัดพริกขิง เป็นต้น ด้านซีพีได้เปิดตัวเมนูราคาเดียว 52 บาท อาทิ สปาเกตตีขี้เมา วุ้นเส้นผัดทรงเครื่อง ข้าวอบห้าเซียน และข้าวผัดน้ำพริก เป็นต้น เช่น เดียวกับยักษ์ค้าส่ง "แม็คโคร" ก็ได้เริ่มขึ้นป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าสาขา เพื่อโปรโมตสินค้าประเภทผัก ในรายการ "สินค้ากำไรดี รับเทศกาลกินเจ" ที่จัดรายการตั้งแต่ 3-30 กันยายนนี้

นางสาวจนัญญา เมฆวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายซุปก้อนตราคนอร์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ คนอร์ได้จัดแคมเปญจาน เจ ใจสะอาด เพื่อสร้าง ความมั่นใจให้กลุ่มลูกค้าที่รักษาศีลและกินเจ โดยจะมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์บุกเยาวราช พร้อมทั้งเปิดตัว "ซุปรสเห็ดหอมก้อน" พร้อมจัดโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน-2 ตุลาคม 2557

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตลาดในช่วงเทศกาลกินเจจะขยายตัวประมาณ 3-5% เพราะสัญญาณเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีนัก อย่างไรก็ตามในระยะหลังคนนิยมกินเจกันมากขึ้น เพราะมองว่าเป็นเรื่องของการทำบุญ ซึ่งแม้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีในช่วงนี้ก็ยิ่งทำให้คนเลือกที่จะทำบุญ เพื่อความสบายใจมากขึ้น รวมทั้งเป็นเรื่องของเทรนด์หรือกระแสนิยมจึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่การเป็น เทศกาลสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook