นักลงทุนตัวจริง

สำหรับนักลงทุนด้วยกันแล้ว คุยกันเพียงไม่กี่นาที ก็จะรู้กันได้เลยว่าใครมือใหม่ ใครพอมีประสบการณ์ และใครเก๋า วันนี้เรามาพูดเรื่องคุณสมบัติการเป็นนักลงทุนกันหน่อยละกันนะคะ ^_^

1. ได้ไม่อวด เสียไม่โอย: ถ้าเราไปย้อนดูหนังที่สอนศิลปะป้องกันตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมวย เทควันโด้ ยูโด หรือแม้แต่หนังเก่าๆอย่าง Karate Kid แล้วหล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นอาจารย์ฝ่ายดีสอนก็คือ อย่าเอาวิชาไปใช้ ไปอวดโดยไม่จำเป็น ให้ใช้ต่อเมื่อจำเป็นหรือใช้ป้องกันตัวเท่านั้น การลงทุนก็เหมือนกัน ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยที่เราจะโพสอวดกำไร เวลาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นานิเห็นมือใหม่สมัยนี้ทำกันบ่อยๆ หรือแม้กระทั่งคนที่มีประสบการณ์แล้วบางคนก็ด้วย
ไม่ใช่เพราะมันจะทำให้คนอื่นหมั่นไส้ แต่เกรงว่ามันจะทำให้เค้าโลภหน่ะสิ เมื่อเกิดความโลภแล้ว แทนที่การโพสโชว์กำไรเพื่อหวังจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆให้เพื่อน อาจกลายเป็นบาปที่ทำให้เค้าตาบอด หลงเข้ามาในตลาดหุ้นอย่างไม่ได้คิด แบบนี้อาจส่งผลร้ายมากกว่าดี ดังนั้น พวกเรานักลงทุนตัวจริง ทั้งหลาย อยากให้ท่องเอาไว้ว่า เราไม่โชว์ของ ‘ได้ไม่อวด เสียไม่โอย’ นะค้า

2. ความ Happy: ถ้าอารมณ์ของเรามันขึ้นอยู่กับตลาด เช่น ถ้าวันไหนหุ้นขึ้น ก็ลั้ลลา เฮฮา แต่ถ้าวันไหนหุ้นลง ก็คอตก หงุดหงิด พาลไปทั่วแล้วหล่ะก็ อาจจะต้องเช็คตัวเองนิดนึง ว่าเรามาถูกทางรึเปล่า ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งนั้น เราไม่ควรยึดติดจนเกินไป การลงทุนก็เหมือนกัน อีกอย่าง การจะก้าวมาเป็นนักลงทุนตัวจริงนั้น เราจะต้องอยู่กับตลาดหุ้นไปจนกว่าเราจะ ‘ยิ้มได้’ ไม่ว่าตลาดจะขึ้น ลง ผันผวน หรือนิ่งสนิทก็ตาม เราต้องฝึกที่จะ happy ได้กับสถานการณ์หลายๆอย่างที่คนทั่วไปอาจจะไม่ happy 555
ทำยังไงถึงจะเป็นอย่างนั้นได้หน่ะหรอ? มันมีหลายองค์ประกอบด้วยกัน แต่หลักๆแล้วก็คือ
2.1 เราต้องใจนิ่งพอ อันนี้อาศัยประสบการณ์ที่จะทำให้เราปลง เพราะเห็นการขึ้น การลง สลับกันไปของตลาดมาหลายครั้ง หลายรอบ ยิ่งนิ่ง เราจะยิ่งเห็นภาพชัดขึ้น และตัดสินใจได้เด็ดขาดขึ้นโดยมีอารมณ์มาเกี่ยวข้องน้อยลงเรื่อยๆ
2.2 เราจะต้องเรียนรู้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่หุ้นที่เรามีจะขึ้นตลอด บางครั้ง หลายคนพลาด ขายหุ้นดีๆ เพียงเพื่อที่จะไปซื้อตาม หุ้นที่กำลังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายพอติดดอยเสร็จ จึงได้หันกลับมาดูหุ้นตัวเดิมที่เพิ่งเริ่มวิ่งขึ้น ดังนั้น เราต้องฝึกที่จะ happy ที่จะเห็นหุ้นของคนอื่นที่เราไม่ได้ถือ ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และคอยยินดีกับเค้า เพราะเรารู้ว่าหุ้นที่เราเลือกก็ดี และก็จะมีวันที่มันพุ่งแบบนั้นเหมือนกัน =)
2.3 เราต้องรู้จักการบริหารเงินให้ดี: แบบนี้ก็อาศัยเวลาเหมือนกัน คือบริหารสัดส่วนของเงินสดกับหุ้นให้พอเหมาะ เพื่อที่ในวันหุ้นขึ้น เราจะได้มีหุ้นเพียงพอให้ happy ได้ และในวันที่หุ้นลง เราก็มีเงินสดเหลือมากพอให้ happy ได้เพราะสามารถเลือกช้อนหุ้นถูกๆได้เช่นกัน

อย่าลืมนะคะสองคุณสมบัตินี้ จดไว้ในสมุดได้เลย ถ้าวันไหนเราพบว่าได้กำไร เราไม่อวดให้ใครฟัง แถมยังไม่บ่นเวลาขาดทุนอีกด้วย แล้วเรายัง happy ได้กับทุกวันที่ได้ลงทุนแล้วหล่ะก็ แปลว่าเราได้ก้าวขึ้นมาอีกขั้นในฐานะนักลงทุนแล้วหล่ะ ^_^

ผู้เขียน : นานิ นิธินวกร ผู้เขียนหนังสือ “สร้างเงินล้านก่อนเรียนจบ” และ “สร้างเงินล้าน ด้วยงานออฟฟิศ”

สนับสนุนข้อมูลโดย : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th/onlineinvestor)