หุ้นกลุ่มปตท.ร่วงทั้งกระดาน! ตกใจ "กบง." ลดภาษีน้ำมันเบนซิน

หุ้นกลุ่มปตท.ร่วงทั้งกระดาน! ตกใจ "กบง." ลดภาษีน้ำมันเบนซิน

หุ้นกลุ่มปตท.ร่วงทั้งกระดาน! ตกใจ "กบง." ลดภาษีน้ำมันเบนซิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ปรับโครงสร้างเก็บเงินเข้ากองทุนฯ-ชดเชย โดยจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิดใหม่ ส่งผลลดราคาน้ำมันเบนซินราคาขายปลีกลดลง 3.89 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลดลง 2.13 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ลดลง 1.70 บาทต่อลิตร อี 20 ลดลง 1 บาทต่อลิตร  อี85 ราคาคงเดิม และน้ำมันดีเซลราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.14 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังคงไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ในกลุ่ม ปตท. อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(PTT) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEPX) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ปรับลดลงแรงทันทีที่การประชุมเสร็จสิ้น

โดย บริษัท PTT ปิดตลาดที่ 321 บาท ลดลง 9 บาทหรือ 2.73 % มูลค่าการซื้อขาย 2,193 ล้านบาท PTTEP ปิดตลาดที่ 164 บาท ลดลง 1 บาทหรือ 0.61 % มูลค่าการซื้อขาย 1,056  ล้านบาท และPTTGC ปิดตลาดที่ 63 บาท ลดลง1.25 บาท หรือ 1.92 % มูลค่าการซื้อขาย 911 ล้านบาท และTOP ปิดที่ 52.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 0.48% มูลค่าการซื้อขาย 91 ล้านบาท ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานปิดที่ 20,852.35 จุด ลดลง 250.05 จุด หรือ 1.18 %มูลค่าการซื้อขาย 8,272 ล้านบาท  ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,559.05 จุด ลดลง 5.53 จุด หรือ 0.35% สูงสุดของวันที่ 1,567.88 จุด ต่ำสุดของวันที่ 1,551.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,240 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นกลุ่ม ปตท. ปรับลดลงแรงเนื่องจากการดำเนินการปฏิรูปพลังงาน ที่กระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนและบรรยากาศการลงทุน แต่การปรับลดราคาน้ำมันในครั้งนี้เกิดจากการลดภาษีในส่วนของภาครัฐ และไม่กระทบต่อฐานะทางการเงินหรือกำไรของบริษัท ปตท. จึงทำให้เกิดแรงขายออกมามาก

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มพลังงานบริษัท ปตท. ถือว่ามีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่สุด ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันที่ 28 สิงหาคมจึงได้รับผลกระทบตามการปรับลดของราคาหุ้น  ปตท.ไปด้วย ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปรับฐานมาปิดที่ 1,559.05 จุด อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาหุ้นปตท.ขณะนี้ยังต่ำกว่าราคาเหมาะสมที่บริษัทวางไว้ที่ 360 บาท อีกทั้งปตท.ยังมีฐานะทางการเงินและผลประกอบการที่ดี จึงคาดว่าหลังจากนี้ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันที่มีอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(พีอี) อยู่ในระดับ 16.3 เท่า ถือว่าราคาสูงเมื่อเทียบกับความเหมาะสมของผลกำไรบริษัท โดยมองว่าระดับพีอีที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 15 เท่า อย่างไรก็ตาม ความชัดเจนในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้านั้น ตลาดได้รับรู้ข่าวไปล่วงหน้าแล้ว และคาดว่าจะไม่มีผลต่อราคาดัชนีมากนัก

ด้านบล.เมย์แบงค์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า คาดว่าในสัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยจะทดสอบที่ระดับ1,580-1,600 จุด เนื่องจาก 2 ปัจจัยคือ การเก็งกำไรต่อเม็ดเงินในกองทุนทริกเกอร์ฟันด์จาก UOBAM ที่เพิ่งปิดการซื้อขายวงเงินราว 1,000 ล้านบาท คาดว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะเข้าตลาดในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ 2. การเก็งกำไรจากต่างชาติมากขึ้น โดยคาดว่าจะไหลเข้าหนาแน่นในสัปดาห์หน้าหลังจบงานไทยแลนด์โฟกัส ซึ่งอดีตต่างชาติจะซื้อหุ้นไทยราว 6,000-8,000 ล้านบาท ในสัปดาห์แรกหลังสิ้นสุดงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook