ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น จากเหตุยูเครน

ไทยออยล์ รายงาน ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครน และปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบีย ยังคงเดิม

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำวันที่ 14 พ.ค. 57 น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น 1.11 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 101.70 เหรียญฯ ขณะที่ เบรนท์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.83 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 109.24 เหรียญฯ โดยราคาน้ำมันดิบปรับเพิ้มขึ้น เนื่องจากตลาดยังคงกังวลกับสถานการณ์ในยูเครน หลังมีมติให้มีการแบ่งแยกดินแดนภาคตะวันออกออกจากยูเครน และจะผนวกเข้ากับรัสเซีย ขณะเดียวกันสหภาพยุโรป ได้ทำการคว่ำบาตร โดยอายัดวีซ่ากลุ่มคนใกล้ชิดของ นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพิ่มเติมอีก 15 คน รวมไปถึงจะยึดทรัพย์บริษัทพลังงานที่จดทะเบียนในไครเมีย อีกด้วยเช่นกัน

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ประจำสัปดาห์ที่ 9 พ.ค. 57 ลดลง 590,000 บาร์เรล และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 2 ล้านบาร์เรล ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบจะลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากฤดูกาลท่องเที่ยวของสหรัฐฯ กำลังจะเริ่มขึ้นและจะมีปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เช่นกัน เนื่องจากปริมาณส่งออกน้ำมันดิบของลิเบีย ยังคงมีปริมาณเท่าเดิมที่ระดับ 235,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปริมาณที่คาดการณ์ไว้ที่ 500,000 บารร์เรลต่อวัน แม้ท่าเรือ El Sharara, El Feel และ Wafa กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มผู้ก่อการกบฏ ได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลลิเบียแล้วก็ตาม