กกพ. ขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 57 อีก 10 สต./หน่วย

กกพ. ขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 57 อีก 10 สต./หน่วย

กกพ. ขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 57 อีก 10 สต./หน่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกพ.ได้พิจารณาผลการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร(เอฟที) ในงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2557 เท่ากับ 72.94 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งหากจัดเก็บตามต้นทุนที่คำนวณได้ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเอฟที ที่ได้เรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าในงวดที่ผ่านมาจำนวน 59 สตางค์ต่อหน่วย ค่า เอฟที จะเพิ่มขึ้น 13.94 สตางค์ต่อหน่วย โดยปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสำหรับค่า Ft ในงวดนี้มาจากการคาดการณ์ความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้นร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันของปี 2556  ประกอบกับประมาณการราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2557 เมื่อเทียบกับงวดเดือนมกราคม – เมษายน 2557 พบว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 

นอกจากนั้นยังมีการเตรียมสำรองน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลเพื่อรองรับเหตุการณ์หยุดจ่ายก๊าซฯ แหล่งผลิต ก๊าซ JDA - A 18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2557 เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาคใต้  

ทั้งนี้ปัจจัยหลักๆ ที่มีผลต่อต้นทุนการคำนวณค่า เอฟทีงวดนี้ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง 0.12 บาทต่อเหรียญสหรัฐ การผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติ เพิ่มขึ้น 2,003.79 ล้านหน่วย จาก 38,652.91 ล้านหน่วย เป็น 40,656.70 ล้านหน่วย เพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 9.11 บาทต่อล้านบีทียู จาก 316.88 บาท/ล้านบีทียู เป็น 325.99 บาท/ล้านบีทียู  และการผลิตไฟฟ้าด้วยน้ำมันเตา มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 246 ล้านบาท จาก 3,403.13 ล้านบาท เป็น 3,649.69 ล้านบาท

“เพื่อมิให้เป็นภาระกับประชาชนผู้ใช้ไฟ  กกพ. จึงมีมติให้มีการจัดเก็บค่าเอฟที งวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2557 เพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมาจำนวน 10.00 สตางค์ต่อหน่วย ดังนั้นค่าเอฟทีที่จะเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าในงวดนี้จึงเท่ากับ 69.00 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ไปดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติในส่วนของท่อเส้นที่ 4 ที่ บมจ.ปตท. ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามแผนและให้ กฟผ. รับภาระต้นทุนส่วนที่เหลือ 3.94 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,247 ล้านบาท เป็นการชั่วคราว”นายดิเรก กล่าว  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook