ผลวิจัยการเงินคนไทยแย่ จับตา 3 กลุ่มเสี่ยงก่อหนี้สูงสุด

ผลวิจัยคลัง-แบงก์ชาติเผยทักษะทางการเงินของคนไทยแย่ จับตา 3 กลุ่มเสี่ยง ก่อหนี้สุงสุด

นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย กล่าวว่า จากการศึกษาเชิงลึกของกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปี 2556 พบว่า คนไทยมีทักษะการเงินเฉลี่ยร้อยละ 58.5 ซึ่งต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยของ 14 ประเทศที่อยู่ที่ร้อยละ 62.3 โดยเฉพาะประชาชน 3 กลุ่ม ที่มีระดับความรู้ทางการเงินในขั้นวิกฤติและควรได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คือ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มอาชีพอิสระรายได้ต่ำ และเกษตรกร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของประชากรร้อยละ 70 ของประเทศ ไม่สนใจการวางแผนการเงินและ บริโภคเกินความจำเป็น จนทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากร้อยละ 55.6 ในปี 2551 เป็นร้อยละ 82.3 เมื่อสิ้นปี 2556

ดังนั้น ทางสถาบันคีนันแห่งเอเชีย จึงร่วมกับมูลนิธิซิตี้ จึงทำโครงการ คนไทยก้าวไกล ใส่ใจการเงิน ระยะเวลา 3 ปี โดยมุ่งเน้น 3 กลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาพบว่ามีการใช้จ่ายเกินตัวสูงมากตามการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ทางการเงินที่เหมาะสมและเพียงพอแก่ประชาชน และจะนำข้อมูลเสนอรัฐบาลเพื่อผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติต่อไป โดยรูปแบบโครงการจะมีการวิจัย สัมภาษณ์เชิงลึก จัดฝึกอบรม กลุ่มเป้าหมายระดับล่างทั่วประเทศ เพื่อศึกษาสาเหตุปัญหาและทางออก นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงสถานการณ์หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงมากถึงร้อยละ 82.3 หรือคิดเป็นมูลค่า 9.8 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ในเขตอัตราแล้ว ซึ่งจะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนระดับล่างดังกล่าวที่มีอยู่ประมาณ 16 ล้านคน เพราะหากกลุ่มระดับล่างมีปัญหาก็จะส่งผลกระทบต่อทั้งระบบได้

ด้าน นายธีระ ภู่ตระกูล นายกสมาคมนักวางแผนการเงิน กล่าวว่า จุดที่น่าห่วงของคนไทย คือ อุปนิสัยการใช้เงิน ซึ่งร้อยละ 90 ของคนไทยไม่ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และไม่มีการวางแผนทางการเงิน นอกจากนี้ ทัศนคติของคนไทยที่นิยมช็อปปิ้งเวลาเครียดควรมีการเปลี่ยนแปลงและควรเร่งรณรงค์การวางแผนการใช้เงินด่วนสโลแกนที่ฟังง่ายและเข้าใจ เช่น สโลแกนที่ว่า ให้เหล้าเท่ากับแช่ง

นายรัชชพล เหล่าวานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิราเคิล ครีเอชั่น กล่าวว่า สื่อควรเข้ามามีบทบาทในการให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชนให้มากขึ้น เนื่องจากมองว่าระดับหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่อยู่ที่ร้อยละ 70 ดังนั้น จึงต้องได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน แม้ว่าอัตราการออมเงินของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 20-30 ซึ่งยังถือว่ามีระดับสูง แต่เป็นการออมของผู้ที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง และมองว่าเศรษฐกิจไทยที่ชะลอลงจะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนลดลง

นายดาเรน บัคลีย์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ยอมรับว่ามีกลุ่มลูกค้าบางส่วนที่เริ่มมีการชำระหนี้ล่าช้า แต่มีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับการให้สินเชื่อทั้งระบบและไม่ถือว่าอยู่ในจุดที่อันตราย แต่ก็จับตามมองเพราะในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวก็มีผลกระทบในการชำระหนี้