'ทนง พิทยะ' คาด ศก.ไทยปีนี้โต 2% เหตุการเมืองวุ่น ไร้รัฐบาลใหม่ แนะใช้วิธีประชาพิจารณ์แก้ปัญหา
ดร.ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงแนวโน้มการเติบโต
ของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ว่า น่าจะอยู่ที่ 2% เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่จบ ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่เต็มที่ และรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจบริหารจัดการเรื่องงบประมาณ หรือการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ทำให้ไม่มีการลงทุน ผู้บริโภควิตกรายได้ในอนาคต จึงใช้จ่ายกันอย่างประหยัด ส่งผลให้ดึงเศรษฐกิจลงไปอีก รวมทั้งการที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ทำให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติขาดความเชื่อมั่นด้วย
ส่วนเรื่องการทำงบขาดดุลปี 2558 นั้น ต้องดูว่านำตัวเลขส่วนไหนมารวมกัน ด้านการลงทุนของรัฐในอนาคต
มองว่า ถ้ารีบลงทุนมากก็จะเกิดความเสี่ยงเยอะ แต่ถ้าเป็นการลงทุนในส่วนของสาธารณูปโภค ส่วนตัวเห็นด้วย ถึงแม้ว่าอาจขาดทุนมากก็ตาม
ดร.ทนง กล่าวอีกว่า สำหรับระบอบประชาธิปไตย ทุกคนในขณะนี้มีความต้องการเดียวกัน แต่ทำไมถึงมีวิธีการ
ที่ต่างกัน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหา จึงมองว่า ควรใช้วิธีประชาพิจารณ์ และหากใครที่ไม่เห็นด้วยควรโดนลงโทษ อีกทั้งขณะนี้ ต่างฝ่ายต่างเล่นเกมของตัวเองมากเกินไป ประชาชนและนักธุรกิจจึงเริ่มเบื่อยหน่ายกับสถานการณ์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ กรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินสายหาทางออกประเทศนั้น มองว่า ควรแสดงจุดยืนว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ วันไหน ต้องปฏิรูปนานเท่าไหร่