ตำรวจชงเก็บค่าธรรมเนียม "ร้านลาบ-หมูกระทะ-ลานเบียร์"!!

ตำรวจชงเก็บค่าธรรมเนียม "ร้านลาบ-หมูกระทะ-ลานเบียร์"!!

ตำรวจชงเก็บค่าธรรมเนียม "ร้านลาบ-หมูกระทะ-ลานเบียร์"!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเอาจริงกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตาม ชงเก็บค่าธรรมเนียมสถานบริการ "ร้านลาบ-หมูกระทะ-ลานเบียร์" ตั้งเป้า 100 ล้านบาท

พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าว่า คณะกรรมการชุดตรวจสอบสถานบริการ เสนอให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถานบริการ ขณะนี้ร่างกฎหมายขอปรับปรุงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ใดตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 120,000-400,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดดำเนินกิจการสถานบริการในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หากผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเวลาเปิดปิดของสถานบริการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ สาเหตุต้องเพิ่มโทษ เนื่องจากผู้ประกอบการไม่เกรงกลัวและมีการลักลอบเปิดเกินเวลามักก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม

นอกจากนี้การเก็บค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตสำหรับสถานบริการที่มีอาหาร สุรา ในสถานที่บริการเปิดโล่ง มีดนตรี หรือมีการแสดงอื่นเพื่อการบันเทิงมีระดับเสียงเกิน 80 เดซิเบล ให้บริการไม่เกิน 23.00 น. อาทิ ร้านลาบ หมูกระทะ ลานเบียร์ที่มีคาราโอเกะ และสถานบริการที่มีพื้นที่ไม่เกิน 100 ตารางเมตรเก็บ 10,000 บาท สถานบริการที่มีพื้นที่เกิน 100 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 300 ตารางเมตร เก็บ 30,000 บาท และพื้นที่เกิน 300 ตารามเมตร เก็บ 50,000 บาท คาดว่าจะสร้างรายได้ให้รัฐบาลปีละ100 ล้านบาท

นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดโซนนิ่งเพิ่มเติมจากเดิม 3 โซน คือ ย่านพัฒน์พงศ์ ย่านเพชรบุรีตัดใหม่ และย่านรัชดาภิเษก เป็นขยายอีก 8 พื้นที่ ได้แก่ ย่านเพชรบุรี ย่านถนนประเสริฐมนูกิจตัดประดิษฐ์มนูธรรม ย่านลาดกระบัง ย่านสุขุมวิท ย่านราชพฤกษ์ ย่านบรมราชชนนี ย่านรัชดาฯ-ท่าพระ และย่านพระราม 2

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการได้เชิญกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมให้ความเห็นเพิ่มเติมแล้ว และในวันที่ 28 เม.ย.นี้ จะเสนอพิจารณาร่างกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอกระทรวงมหาดไทยนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook