รมต.คลังASEANมองGDPปี57โต4.7-5.3%

รมต.คลังASEANมองGDPปี57โต4.7-5.3%

รมต.คลังASEANมองGDPปี57โต4.7-5.3%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติประชุม รมต.คลัง ASEAN มอง GDP ปี 57 โต 4.7-5.3 % จับตาศก.จีน,ญี่ปุ่นชะลอกว่าคาด

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 18 ระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2557 ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งมีประเด็นหลักที่สำคัญ ดังนี้

1. เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน มีการเติบโตที่แข็งแกร่งและขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากปี 2556 ที่มีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 5.1 ต่อปี โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 อีกทั้งคาดว่า เศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียน ในปี 2557 จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 4.7-5.3 ต่อปี ซึ่งความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาเซียนอาจจะเผชิญที่สำคัญในปี 2557 ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะมากกว่าที่คาดไว้ ความผันผวนของภาคการเงิน และเงินทุนเคลื่อนย้าย รวมถึงปฏิกิริยาตอบรับที่เกินจริงในตลาดเงิน และแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และการดำเนินโยบายการเงินแบบหดตัวของสหรัฐ

2. แผนการรวมตัวด้านนโยบายและระบบการเงินอาเซียน ซึ่งช่วยสนับสนุนการเป็นตลาดและฐานการผลิตร่วมภายใต้แผนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

3. ความร่วมมือด้านการเงินและรวมตัวทางเศรษฐกิจ

4. ประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการจัดประชุม AFMM ครั้งนี้ เมื่อมีการจัดทำระบบการเชื่อมโยงการดำเนินการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์อาเซียน ภายใต้ ASEAN Trading Linkก็จะช่วยสร้างความเชื่อมโยงของระบบการโอนการชำระราคา และการรับฝากหลักทรัพย์ เพื่ออำนวยความสะดวก และรองรับระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปลัดกระทรวงการคลัง ได้แจ้งที่ประชุมว่า การที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลดีในสาขาการส่งออก และเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.6 ต่อปี ในปี 2557 

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้น ยังเป็นปัจจัยที่ยังน่าเป็นห่วงสำหรับเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ แต่ด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในภาคการเงินและปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งนั้น ทำให้เศรษฐกิจไทยพร้อมรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook