จุดขายของนายเงี๊ยบ

จุดขายของนายเงี๊ยบ

จุดขายของนายเงี๊ยบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ" ไม่ว่าจะเคยไปทานหรือไม่ พอเอ่ยชื่อนี้ต้องร้องอ๋อ

ผม เป็นคนหนึ่งซึ่งไม่เคยทานก๋วยเตี๋ยวนายเงี๊ยบ แต่พอได้ยินชื่อนี้ก็รู้สึกว่ารู้จัก เหมือนกับว่าเคยไปทาน อาจเป็นเพราะว่าเขาเปิดมานานกว่า 40 ปี มีคอลัมนิสต์เขียนชมมากมาย จึงอาจเคยผ่านตาจากสื่อเหล่านั้น

เมื่อสัปดาห์ก่อน แวะไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านนายเงี๊ยบ พุทธมณฑลสาย 4 ร่วมกับเพื่อนๆ สื่อมวลชน เรื่องรสชาติ คุณภาพ คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมีหลายสถาบันการันตีอยู่แล้วแต่สิ่งที่ผมสะดุดตาก็คือ "ร้านกาแฟนายเงี๊ยบ" ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน บอกตรงๆว่าเห็น ชื่อแล้วชอบทันที

การออกแบบร้านสไตล์โมเดิร์น ตามแนวนักบริหารรุ่นใหม่ "ธนกร สาลีพัฒนา" ซึ่งเป็นบุตรชายของนายเงี๊ยบ แน่นอนว่าลูกค้าส่วนหนึ่งคือคนที่เข้าไปทานก๋วยเตี๋ยว แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าทั่วไปที่ขับรถผ่านแล้วบังเอิญเห็น พอซื้อไปกินแล้วติดใจก็กลับมาซื้ออีก

ธนกรบอกว่า สาเหตุที่มาทำกาแฟเพราะมองเห็นแนวโน้มว่าธุรกิจกาแฟกำลังเติบโต ประกอบกับคุณสมบัติของกาแฟสามารถป้องกันโรคต่างๆ ได้ เขาตัดสินใจบอกกับพ่อว่า ขอแยกตัวออกมาทำธุรกิจกาแฟ ซึ่งพ่อก็ไม่คัดค้าน กลับสนับสนุนอย่างเต็มที่

สมชาติ สาลีพัฒนา หรือ นายเงี๊ยบ แนะนำลูกชายว่า "อย่าเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยความคิดว่าจะมีกำไรเท่านั้นเท่านี้ แต่ควรทำสินค้าให้มีคุณภาพมากที่สุด"

เขายกตัวอย่างธุรกิจก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่ แม้ว่าวันนี้จะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ยังเปิดแค่ 2 สาขา คือสาขาพุทธมณฑลสาย 4 กับ สาขาบางขุนนนท์ (สาขา ดั้งเดิม) ไม่ขยายมากกว่านี้ ไม่ขายแฟรนไชส์

"คนยุคนี้เวลาลงทุนมักคิดถึงกำไรเป็นที่ตั้ง ไม่พิถีพิถัน คิดวันนี้ พรุ่งนี้ลงมือเลย ไม่ศึกษาให้ถ้วนถี่ พอขาดทุนนิดหน่อยก็ถอย ธุรกิจกาแฟเหมือนจะทำง่าย แต่ไม่ง่าย

ถ้าไม่อยู่ในย่านธุรกิจ โอกาสจะขายวันละ 100-200 แก้วเป็นไปได้ยาก ต้องใช้เวลาสร้างแบรนด์ ถ้ารสชาติดี คุณภาพดี เดี๋ยวเขาบอกต่อกันเอง อย่าโลภ อย่าเอาเปรียบลูกค้า ใช้วัตถุดิบราคาถูกแต่ขายราคาแพง แบบนั้นอยู่ลำบาก คนซื้อฉลาด มีของให้เลือกมากมาย สินค้าไม่ดีจริงอยู่ลำบาก" นายเงี๊ยบให้ข้อคิด

ผมฟังแล้วก็เห็นด้วย นึกถึงคำพูดของนักธุรกิจระดับชาติคนหนึ่งซึ่งบอกว่า การทำธุรกิจ ถึงไม่มีคู่แข่ง ถ้าไม่พัฒนาก็อยู่ไม่ได้ สินค้าของเราดีพอหรือเปล่า แตกต่างจากคนอื่นหรือเปล่า วันนี้ดี พรุ่งนี้ยังดีอยู่หรือเปล่า ต้องปรับปรุงทุกวัน ถ้าไม่คิด ไม่ปรับปรุง อยู่ไม่ได้

ผมชอบที่สุดตอนถามว่า "ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เท่าไหร่" นายเงี๊ยบตอบว่า "ไม่รู้ ขอทำให้ดีที่สุดก็พอ" พอถามว่า เปิดร้านกาแฟขึ้นมาเพื่อตั้งใจขายเป็นแฟรนไชส์หรือเปล่า เขาตอบว่า มีคนสนใจขอซื้อแฟรนไชส์ แต่ยังไม่กล้าขาย เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องรอผลพิสูจน์จากลูกค้าก่อน ถ้าลูกค้าเพิ่มขึ้นน่าพอใจ ค่อยว่ากันอีกที

เป็น ตัวอย่างของธุรกิจเล็กๆ ที่เริ่มต้นในลักษณะธุรกิจครอบครัว แต่ขายคุณภาพเทียบเท่าสินค้าอินเตอร์แบรนด์ เป็นคำตอบที่การันตีว่า ถ้าทำธุรกิจด้วยการยึดคุณภาพเป็นที่ตั้ง รับประกันโตได้


ขอบคุณภาพ naingieb.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook