ทิ้งใบจอง "รถคันแรก" จุกอก ค่ายรถตั้งรับปีหน้า

ทิ้งใบจอง "รถคันแรก" จุกอก ค่ายรถตั้งรับปีหน้า

ทิ้งใบจอง "รถคันแรก" จุกอก ค่ายรถตั้งรับปีหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรกยังเป็นห่วงโซ่ โยงใยตลาดรถยนต์ปีนี้ดิ่งเหว ยอดขายรถ 8 เดือนยังไม่เข้าเป้า ขายได้ไม่ถึง 1 ล้านคัน โดยมียอดขายอยู่ที่ 939,342 คัน จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี 1.1-1.2 ล้านคัน ซึ่งเหลือเวลาอีก 4 เดือน ถ้าขายได้เดือนละ 1 แสนคัน ก็จะทะลุเป้า ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลขเดือนสิงหาคมก็มีความเป็นไปได้

เนื่องจากยังมียอดค้างส่งมอบรถจากโครงการรถยนต์คันแรก ที่กรมสรรพสามิตมีแผนส่งเอสเอ็มเอสไปแจ้งให้ผู้จองรถที่ยังไม่ขอใช้สิทธิ์กว่า 1.3 แสนราย ยืนยันการใช้สิทธิ์ โดยนายจุมพล ริมสาคร ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง กล่าว ว่า ณ วันนี้กรมสรรพสามิตได้ทยอยคืนเงินภาษีให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ในโครงการรถยนต์คันแรกแล้วจำนวนประมาณ 5 แสนราย เป็นเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดว่า จะทยอยคืนได้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปีงบประมาณ 2557-2558

แต่ทั้งนี้ยังเหลือยอดใบจองที่รอการ แสดงขอใช้สิทธิ์หรือรอรับรถอีกจำนวน 1.3 แสนราย ส่วนยอดขอยกเลิกการใช้สิทธิ์มีจำนวน 2 หมื่นราย และมีผู้ขอใช้สิทธิ์ที่กระทำผิดเงื่อนไขถือครองรถยนต์ไม่ครบ 5 ปี โดยกรมฯได้รับเงินคืนจากผู้ร่วมโครงการแล้วกว่า 20 ราย

"ยอดใบจองที่ยังรอการใช้สิทธิ์จำนวน 1.3 แสนรายนี้ มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะกำลังรอรับรถ หรือไม่ก็ทิ้งใบจอง เพราะบางรายอาจจองรถไว้หลายแห่ง เมื่อรับรถจากค่ายใดค่ายหนึ่งไปแล้ว ก็ไม่ได้แจ้งยกเลิกใช้สิทธิ์ ซึ่งในส่วนนี้กรมสรรพสามิต จะเข้าไปตรวจสอบจำนวนความต้องการขอใช้สิทธิ์ที่แท้จริงว่ามีเหลืออยู่เท่าใด โดยใช้วิธีการส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) เพื่อยืนยันการใช้สิทธิ์ทางโทรศัพท์ เพื่อกรมฯ จะได้ตั้งงบประมาณในการจ่ายคืนเงินก่อนปิดโครงการได้" นายจุมพล กล่าว

ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าในเดือนธันวาคมนี้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการหารือและสรุปเป้าการผลิตรถยนต์ในปี 2557 อย่างไม่เป็นทางการ โดยประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาคือปัจจัยในประเทศและตลาดประเทศ โดยปัจจัยในประเทศที่จะมีผลต่อการผลิตคือเรื่องของการเมือง, ภัยธรรมชาติ, ราคาสินค้าเกษตร, ราคาน้ำมัน และภาคการส่งออกโดยรวมของไทย ส่วนต่างประเทศ คงจะดูเรื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เป็นหลัก เป็นเพราะว่าขณะนี้รถยนต์บางยี่ห้อและบางรุ่นมีปริมาณสต็อกมากกว่า 1 เดือน จากสถานการณ์ปกติมีสต็อกประมาณ 15-20 วัน สาเหตุมาจากผู้ที่จองรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรกยังไม่มารับรถ เพราะบางรายไม่สามารถหาเงินดาวน์ได้ทัน และบางรายยังไม่พร้อมที่จะผ่อนรถ

สำหรับยอดขายรถยนต์ในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.56) มียอดขายอยู่ที่ 939,342 คัน และในเดือนส.ค.ขายได้ 100,289 คัน ลดลง 22.6% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ของปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงรายงานสถิติการขายรถเดือนสิงหาคม 2556 นี้ว่ายอดขายที่ลดลงนั้นเป็นรถยนต์นั่ง (เก๋ง) 51,006 คัน ลดลง 16.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 49,283 คัน ลดลง 28.1% รวมทั้งรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนต์นี้ จำนวน 40,519 คัน ลดลง 32.9%

ส่วนยอดขายสะสม 8 เดือน ขายได้ทั้งสิ้น 939,342 คัน เป็นรถยนต์นั่ง 450,548 คัน ,รถเพื่อการพาณิชย์ 488,794 คัน อย่างไรก็ดีการเร่งส่งมอบรถค้างจองในช่วงต้นปีและกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถที่เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 นั้นมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดขายนับจากนี้

ทั้งนี้ คาดว่าในเดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่มียอดขายสูงสุดในไตรมาส 3 เพราะมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และ กิจกรรมส่งเสริม การขายต่างๆจากบริษัทรถยนต์ในหลากหลายรูปแบบที่ทำให้ผู้ซื้อตัดสิน ใจเร็วขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook