BOIเผยการลงทุนทางตรงจากต่างปท.ลดลง
บีโอไอ เผย การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศลดลง เพราะเศรษฐกิจโลกถดถอย เตรียมจัดประชุมแผนชักจูงการลงทุนธ.ค.นี้
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า สถิติการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ช่วง 9 เดือน พบว่า มีการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 853 โครงการ เงินลงทุนรวม 3.50 แสนล้านบาท โดยจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงเท่ากันร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 1,054 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 4.33 แสนล้านบาท ทั้งนี้ นักลงทุนจากญี่ปุ่น ยังเป็นกลุ่มทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดที่เข้ามาลงทุนในไทย โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 448 โครงการ เงินลงทุน 2.11 แสนล้านบาท โดยโครงการและมูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงเท่ากันที่ร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มี 586 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 276,087 ล้านบาท รองลงมาก็เป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 44 โครงการ เงินลงทุน 8,193 ล้านบาท โดยมีเงินทุนปรับลดลงร้อยละ 49 จากช่วงเดียวกันที่มีมูลค่า 1.60 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นายอุดม กล่าวว่า แม้การลงทุนจากบางประเทศจะชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่ก็มีโครงการลงทุนจากประเทศอื่นๆ ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น อาทิ มาเลเซีย และจีน ซึ่งในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ บีโอไอ จะจัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศทั้ง 14 แห่งขึ้น เพื่อวางแผนชักจูงการลงทุนปี 2557 ให้สอดคล้องกับการชักจูงการลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า สถิติการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ช่วง 9 เดือน พบว่า มีการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 853 โครงการ เงินลงทุนรวม 3.50 แสนล้านบาท โดยจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงเท่ากันร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 1,054 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 4.33 แสนล้านบาท ทั้งนี้ นักลงทุนจากญี่ปุ่น ยังเป็นกลุ่มทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดที่เข้ามาลงทุนในไทย โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีโครงการลงทุนจากญี่ปุ่น ยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 448 โครงการ เงินลงทุน 2.11 แสนล้านบาท โดยโครงการและมูลค่าเงินลงทุนปรับลดลงเท่ากันที่ร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มี 586 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 276,087 ล้านบาท รองลงมาก็เป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกา มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 44 โครงการ เงินลงทุน 8,193 ล้านบาท โดยมีเงินทุนปรับลดลงร้อยละ 49 จากช่วงเดียวกันที่มีมูลค่า 1.60 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นายอุดม กล่าวว่า แม้การลงทุนจากบางประเทศจะชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่ก็มีโครงการลงทุนจากประเทศอื่นๆ ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น อาทิ มาเลเซีย และจีน ซึ่งในช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ บีโอไอ จะจัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศทั้ง 14 แห่งขึ้น เพื่อวางแผนชักจูงการลงทุนปี 2557 ให้สอดคล้องกับการชักจูงการลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว
สนับสนุนเนื้อหา
