BOIเผยนักลงทุนสนใจทำธุรกิจในปท.เพิ่ม
บีโอไอ เผย ผลสำรวจนักลงทุนต่างชาติ เล็งขยายการธุรกิจในไทยเพิ่ม พร้อมขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังงานสัมมนา "อนาคตการลงทุนไทย ในสายตานักลงทุน" ว่า จากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ประจำปี 2556 พบว่า ในช่วงปี 2556 - 2557 นักลงทุนส่วนใหญ่ กว่าร้อยละ 63 มีความเชื่อมันรักษาระดับการลงทุนในประเทศ และอีกร้อยละ 34 หรือนักลงทุนประมาณ 1 ใน 3 มีแผนจะขยายการลงทุนในไทย ซึ่งนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน และสหภาพยุโรป เป็นกลุ่มที่มีแผนขยายการลงทุนในสัดส่วนที่สูงกว่าชาติอื่น ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะเน้นไปที่ 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม และ พม่า ส่วนปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทย มาจากสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เป็นจุดแข็งของไทย รวมถึง สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจาก บีโอไอ
ทั้งนี้ นายโชคดี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องที่นักลงทุนต้องการให้ทางบีโอไอปรับปรุงคือ เรื่องการเพิ่มความเร็วในการบริการ และประสิทธิภาพของหน่วยงานราชการทั่วไป โดยหากเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ไทยเป็นรองจากสิงคโปร์เพียงประเทศเดียว
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังงานสัมมนา "อนาคตการลงทุนไทย ในสายตานักลงทุน" ว่า จากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ประจำปี 2556 พบว่า ในช่วงปี 2556 - 2557 นักลงทุนส่วนใหญ่ กว่าร้อยละ 63 มีความเชื่อมันรักษาระดับการลงทุนในประเทศ และอีกร้อยละ 34 หรือนักลงทุนประมาณ 1 ใน 3 มีแผนจะขยายการลงทุนในไทย ซึ่งนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน และสหภาพยุโรป เป็นกลุ่มที่มีแผนขยายการลงทุนในสัดส่วนที่สูงกว่าชาติอื่น ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะเน้นไปที่ 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม และ พม่า ส่วนปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทย มาจากสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมสนับสนุนที่เป็นจุดแข็งของไทย รวมถึง สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจาก บีโอไอ
ทั้งนี้ นายโชคดี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องที่นักลงทุนต้องการให้ทางบีโอไอปรับปรุงคือ เรื่องการเพิ่มความเร็วในการบริการ และประสิทธิภาพของหน่วยงานราชการทั่วไป โดยหากเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ไทยเป็นรองจากสิงคโปร์เพียงประเทศเดียว