ผุดทรัสต์ 2 หมื่นล้าน ระดมทุนเนรมิตอิมแพ็ค 2

ผุดทรัสต์ 2 หมื่นล้าน ระดมทุนเนรมิตอิมแพ็ค 2

ผุดทรัสต์ 2 หมื่นล้าน ระดมทุนเนรมิตอิมแพ็ค 2
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อิมแพ็ค ตั้ง กสิกรไทย และเมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นที่ปรึกษาและผู้จัดการการจัดจำหน่ายกองรีทส์อิมแพ็คโกรท มูลค่าร่วม 20,000 ล้านบาท หวังนำเงินไปพัฒนาศูนย์แสดงสินค้า โรงแรม คอนโดฯ และการประชุม อิมแพ็ค 2 คาดเสนอขายให้นักลงทุนไตร-มาส 4 ปีนี้

นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมอบให้ทาง ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ปฏิบัติหน้าที่เป็นทรัสตีให้แก่กองทรัสต์อิมแพ็คโกรท เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (IMPACT Growth Real Estate Investment Trust) หรือสร้าง IMPACT 2 ที่มีรวมเอาศูนย์การแสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ศูนย์อาหาร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โรงแรมและคอนโดฯ ในบริเวณเดียวกัน คาดว่า จะระดมเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่จะออกเสนอขาย แก่นักลงทุนเป็นกองแรกในประเทศไทย

โดยกลุ่มบริษัทบางกอกแลนด์จะยังคงลงทุนในฐานะผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตราร้อยละ 50 คาดว่าจะถือหุ้นใหญ่ไม่เกิน 5 ปี ส่วนอีก 50% เสนอขายให้กับประชาชน ข้อดีของกองทรัสต์นี้จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และ จะทำการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิให้แก่ผู้ถือหน่วยเป็นประจำทุกปี คาดว่าจะเปิดให้จองช่างไตรมาสที่ 4 ของปี 2556

ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนของโครงการ Im-pact 2 นี้ เงินลงทุนจาก REIT ได้จำนวน 20,000 ล้านบาท คงไม่พอจึงต้องนำเงินจากการขายที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ของบางกอกแลนด์ และเงินจากทรัพย์สินที่มีในมืออีก 4,000-5,000 ล้าน บาท มารวมกัน เพื่อใช้ในสร้าง IMPACT 2 I รวมแล้วประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างต้นปี 2557 และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 18-24 เดือน

ขณะเดียวกัน นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กองทรัสต์นี้นำมาใช้แทนกองทุนรวมอสังหาริม-ทรัพย์เดิม โดยรูปแบบการลงทุนปรับเปลี่ยนให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น เช่น การไม่กำหนดประเภทของทรัพย์สินที่กองทรัสต์สามารถลงทุนได้ ซึ่งจะช่วยยกระดับรูปแบบของการลงทุนให้เหมือนกับประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยกองทรัสต์จะทำการระดมทุนจาก ผู้ลงทุน เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อ/เช่าทรัพย์สิน เมื่อ ทำการซื้อ/เช่าทรัพย์สินแล้ว กองทรัสต์ก็จะเปรียบเสมือนกองทรัพย์สิน โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่ได้จ่ายเงินลงทุนครั้งแรก เมื่อจัดตั้งกองทรัสต์แล้วเสร็จก็จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าว ตามสัดส่วนของหน่วยทรัสต์ที่ถือ โดยมีผู้จัดการกองทรัสต์ทำหน้าที่ในการนำสินทรัพย์นั้นไปหาประโยชน์โดยการให้เช่า/ให้บริการ เมื่อกองทรัสต์ได้รับผลกำไรก็จะนำไปจ่ายปันผล โดยทาง ก.ล.ต. ได้กำหนดให้จ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิของแต่ละปี ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์

สำหรับ REIT เป็นทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่ในไทย โดยการนำทรัพย์สินมาจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำมาใช้แทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดิม โดยรูปแบบการลงทุนของกองทรัสต์ มีการปรับ เปลี่ยนรูปแบบจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นรูปแบบที่มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น เช่น การไม่กำหนดประเภทของทรัพย์สินที่กองทรัสต์สามารถลงทุนได้ รวมถึงรูปแบบการกำกับดูแลที่มีความเป็นสากลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับรูปแบบของการลงทุนให้เหมือนกับประเทศอื่นๆ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook