“คิดแล้วต้องทำ” มุมมองสุดเจ๋งจาก 7 คนรุ่นใหม่ที่กล้าวิ่งไล่ตามฝัน

ไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับ #คิดแล้วต้องทำ แคมเปญใหม่ล่าสุด จาก We Are LEO ที่กระตุกความคิดของพวกเรา ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ 7 คน ที่กล้าคิด..และกล้าลุกขึ้นมาทำตามฝัน

แต่แค่ความกล้าอย่างเดียวคงไม่พอ เราลองมาสัมผัสกับ 7 เรื่องราวและมุมมองโดนๆ ที่สามารถพาพวกเค้าก้าวข้ามผ่านอุปสรรคและขีดจำกัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้

จากเด็กสาวที่หลงรักในงานฝีมือและหนังตั้งแต่เด็ก จนผันตัวเองมาเป็นนักออกแบบเครื่องหนังโดยมีเป้าหมายว่าเครื่องหนังของเธอจะต้องเทียบเท่าระดับสากลให้ได้ จากความตั้งใจวันนั้น จนวันนี้เธอได้เปิดแบรนด์เครื่องหนัง R Studio ของตนเองจนสำเร็จ ด้วยแรงฮึดสู้จากคำพูดของคุณพ่อแค่ประโยคเดียวว่า “ถ้าล้มตอนนี้ยังลุกได้ ถ้าแก่กว่านี้เราจะลุกยาก” สำหรับเธอการตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆ อาจจะเหมือนการตัดสินใจกระโดดหน้าผา แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ เราแค่ก้าวเดินไปข้างหน้าอีกก้าวเท่านั้นเอง

จากนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติผันตัวเองเป็นคนสร้างสรรค์อาหารแนวหน้า จากความชอบทำอาหารในวัยเด็กและความฝันที่อยากเปิดร้านอาหารของตนเอง ทำให้เขาได้ตัดสินใจออกจากชีวิตการเป็นนักกีฬาทีมชาติ และเดินหน้าเรียนทำอาหารอย่างเต็มที่ เพียงเพราะเขาเชื่อว่า “อยากทำอะไรก็ทำไปก่อน แต่ต้องทำให้ดีที่สุด” ปัจจุบันเขาได้เปิดร้าน Chef’s table by Chef Art ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย และความสุขที่สุดของเขาคือการที่ได้ตื่นมาทำในสิ่งที่รักในทุกๆวัน จนวันนี้ความกล้าในวันนั้นยังทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ

จากหนุ่มคนหนึ่งที่ลองทำมาหลากหลายอาชีพไม่ว่าจะเป็นพิธีกร ผู้ช่วยผู้กำกับ หรือแม้แต่นักควงกระบอกไฟ เพื่อค้นหาตัวตนของตนเอง จนสุดท้ายพบว่าที่จริงอาชีพ Life Explorer นักเดินทาง เหมาะกับเขาที่สุดแล้ว จากการเดินทางขึ้นเหนือเพื่อหาแรงบันดาลใจเพื่อนำกลับมาพัฒนางานในวันนั้น เปลี่ยนความคิดของเขาในวันนี้โดยสิ้นเชิง เขาเชื่อว่า “การค้นหาเส้นทางใหม่ๆให้กับชีวิตก็เพื่อค้นหาตัวตนของตัวเองไปพร้อมๆกัน ถ้าไม่ลองก็ไม่มีวันรู้ แม้จะยังไม่เจอทางที่ใช่ แต่อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มขึ้น”

เริ่มต้นจากความรักในกางเกงยีนส์ เปลี่ยนเป็นแรงผลักดันที่ว่า “ถ้าเขามีร้าน เขาอยากทำยีนส์ที่ดีที่สุด” จึงเแรงกระตุ้นให้เขาตัดสินใจทำ Custom Made Jeans แม้ว่าตอนนั้นยังไม่มีใครทำเลยก็ตาม แต่ด้วยความตั้งใจที่จะไม่ทำเหมือนคนอื่น เขาเชื่อว่า “ถ้าคนอื่นไปซ้าย เขาจะไปขวา” ทำให้เขาเดินหน้าสานต่อความฝันจนเปิดร้านยีนส์ภายใต้แบรนด์ Selvedgework ของตนเองจนสำเร็จ และเขายังไม่หยุดอยู่แค่นี้ ยังคงก้าวเดินต่อไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อไปสู่เป้าหมายขั้นต่อไปที่ตั้งไว้

จากวิศวะยานยนตร์ ตัดสินใจผันตัวเองมาเป็นครูสอนดนตรีที่ไม่ยึดติดกับตัวโน๊ต แม้ใครจะบอกว่าอาชีพนี้ไม่มั่นคงเลยก็ตาม แต่เขาเชื่อว่า “สิ่งที่ได้จากการทำสิ่งที่รัก คือประสบการณ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ ชีวิตไม่ต้องเป็นไปตามที่ใครพูด แต่เป็นเส้นทางที่มีความสุขก็พอแล้ว” เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อเพื่อมาเป็นครูสอนดนตรีเต็มตัวและมุ่งมั่นที่จะเดินตามความฝันของเขาต่อไป

อดีตพนักงานออฟฟิศที่เคยมีความฝันในไว้ว่าอยากเปิดร้านแต่งมอเตอร์ไซค์เล็กๆ แต่คิดว่าเป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆ จนกระทั่งวันที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่นิวยอร์ค และเห็นศิลปินอิสระมุ่งมั่นทำตามฝัน ทำให้ไฟในตัวของเขาลุกขึ้นอีกครั้งและมุ่งมั่นเดินทางทำตามเป้าหมายที่เคยพับเก็บไว้ จนวันนี้เขาก็สามารถฝ่าฝันเรื่องราวต่างๆจนสามารถเปิดร้านแต่งมอเตอร์ไซค์สไตล์วินเทจเป็นของตัวเองได้สำเร็จ และจากการตัดสินใจวันนั้นทำให้เขารู้ว่า “ชีวิตไม่มีทางลัด การเดินทางตามความฝันของเขาเริ่มต้นที่ความกล้า จนสามารถก้าวผ่านขีดจำกัดของตัวเองได้”

แม้ว่าการเป็นช่างภาพเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผู้หญิงในสมัยนั้น แต่เธอยังเลือกที่จะพิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางอาชีพช่างภาพ เธอตัดสินใจเรียนถ่ายภาพแม้ว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่จาก 0 และต้องขยันมากกว่าคนอื่น 2 เท่าก็ตาม ความพยายามของเธอทำให้เธอหยุดคิด หยุดตั้งคำถามแล้วเลือกที่จะลงมือทำ เส้นทางการถ่ายรูปที่เธอเลือก ต้องอาศัยทั้งการปรับตัว และสังเกตสิ่งรอบข้าง แต่เธอเชื่อว่า “ต้องมีความรัก ความสนุกและลงมือทำมันแล้วงานจะดีออกมาให้เห็นเอง”

จากประสบการณ์และแนวคิดของทั้ง 7 คนธรรมดาเหล่านี้ อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่กล้าลุกออกจากกรอบมาเดินตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ให้หันกลับมาลองถามตัวเองว่า “เราพร้อมที่จะลงมือทำแล้วหรือยัง?”

เพราะ We Are LEO เชื่อว่าคนธรรมดาอย่างพวกเราทุกคนก็สามารถทำให้ความฝันให้ประสบความสำเร็จเหมือนพวกเขาเหล่านี้ได้เช่นกัน ขอเพียงถ้าเรายังมีความฝัน และยังไม่เคยได้ลุกขึ้นทำ จงยืนขึ้น และลุกขึ้นมาทำให้มันเป็นจริงกันดีกว่า

#ก็พวกเราเป็นคนแบบนี้แหละ #คิดแล้วต้องทำ #WeAreLeo

ติดตามเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของพวกเขา ได้ที่ www.weareleo.com

[Advertorial]