พรีวิว Casio MR-G-B5000 TSUIKI LIMITED EDITION มีแค่ 9 เรือนในไทย

Casio แบรนด์ที่เรียกว่าเป็นอีกชื่อที่นิยมในเรื่องของนาฬิกา เน้นเรื่องความทนทาน มีหลากหลายุร่นและรุ่น Limited ที่ออกมาน่าสนใจ รอบนี้ Sanook Men พาคุณไปดูกับ G-Shock กับรุ่น MRG-B5000 – TSUIKI – LIMITED EDITION ในซีรีส์ HAMMER TONE ประจำปี 2025

ที่น่าสนใจนอกจากจำนวนจำกัดแล้ว รุ่นนี้เป็นการผสมผสานศิลปะหัตถกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นเข้ากับความแข็งแกร่งและเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของ MR-G ได้อย่างลงตัว

 

ดีไซน์ที่สะกดทุกสายตา Hammer Tone บนไทเทเนียมอัลลอย

สิ่งที่ทำให้เราต้องหยุดมองนาฬิกาเรือนนี้คือลวดลายบนกรอบและสาย ซึ่งเป็นเทคนิคการตอกขึ้นรูปที่เรียกว่า "Tsuiki" หรือ Hammer Tone โดยความพิเศษในปีนี้คือการใช้เทคนิคนี้บนวัสดุ

DAT55G Titanium Alloy เป็นครั้งแรก พร้อมเคลือบผิวด้วย Black Diamond-Like Carbon (DLC) ทำให้ได้สีดำเงางามและทนทานต่อรอยขีดข่วนอย่างยิ่ง ตัดกับรายละเอียดสี Rose Gold IP ตามส่วนประกอบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราโดดเด่น

ผลงานการรังสรรค์ลวดลายนี้เป็นฝีมือของ คุณคาซูยะ วาตานาเบะ (Kazuya Watanabe) ช่างฝีมือจากจังหวัดนางาตะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลวดลายที่ตอกด้วยมือนั้นทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำกันแม้แต่เรือนเดียว

 

ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ภายนอก

เพราะความสวนงามไม่ได้มแค่ตัวเครื่องแต่ว่าจริงๆ แล้วก็มีการอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีตามแบบฉบับของ G-SHOCK ไม่ว่าจะเป็น

• Bluetooth & Radio-Controlled Timekeeping: ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth และรับสัญญาณวิทยุเพื่อปรับเวลาให้เที่ยงตรงอยู่เสมอ
• Solar-Powered: ทำงานด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนถ่าน
• Multi-Guard Structure: โครงสร้างขอบหน้าปัดแบบหลายชิ้นส่วนที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและทนทานสูงสุด
• Sapphire Crystal: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คุณภาพสูงที่เคลือบสารกันแสงสะท้อน ทำให้มองเห็นหน้าปัดได้อย่างคมชัดทุกมุมมอง

 

ความพิเศษสุดของรุ่นนี้

สำหรับ MRG-B5000HT-1DR รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันนี้ จะมีการสลักคำว่า “2025 LIMITED” ไว้ที่ฝาหลังเพื่อบ่งบอกถึงความพิเศษและจำนวนการผลิตที่จำกัด โดยเปิดตัวในประเทศไทยด้วย

ราคา 220,000 บาท มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสมฐานะนาฬิการะดับพรีเมียม

เรียกได้ว่า G-SHOCK MRG-B5000 – TSUIKI – LIMITED EDITION ไม่ใช่แค่นาฬิกา แต่เป็นผลงานศิลปะบนข้อมือที่น่าสะสมและเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง แต่ใครอยากมาดูตัวจริงต้องมาที่เซ็นทรัลชิดลมที่เดียว และจำนวนของรุ่นนี้ มีแค่ 9 เรือน (จาก 500 เรือนทั่วโลก) 

นอกจากนี้ยังมีรุ่นอื่นๆ ให้ดูอีกอย่าลืมมาดูกัน