ในทุกความสำเร็จ มี “ครอบครัว” เสมอ “เดี่ยว สุริยนต์”

ในทุกความสำเร็จ มี “ครอบครัว” เสมอ “เดี่ยว สุริยนต์”

ในทุกความสำเร็จ มี “ครอบครัว” เสมอ “เดี่ยว สุริยนต์”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ไม่สำคัญเลยว่าลูกจะเก่งมาก จะต้องประสบความสำเร็จ เป็นที่หนึ่ง แต่ขออย่างเดียว ขอให้เป็นคนดี” คำสอนฝังใจจากคุณพ่อ คุณแม่ของนักแสดงหนุ่มกระแสดี “เดี่ยว สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล” ที่มีคิวละครแน่นไม่แพ้พระเอกเบอร์ต้นๆ มีแฟนคลับล้นหลามตามไปให้กำลังใจทุกครั้งที่ออกอีเว้นท์

ยิ่งเมื่อ Sanook! Men ได้พูดคุยกับเขา ยิ่งทำให้รู้ว่าในทุกช่วงชีวิตของชายหนุ่มผู้นี้ล้วนได้รับคำแนะนำจากครอบครัว และนี่ก็น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับ และเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้

น้องสาวตัวแสบ…ผู้ชักนำเข้าสู่วงการบันเทิง
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงของเดี่ยวเกิดจากน้องสาวแท้ๆ คะยั้นคะยอให้เขาเข้าร่วมรายการประกวดนายแบบของคลื่นวิทยุหนึ่ง แม้ในตอนนั้นจะไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่เพราะกำลังใจจากครอบครัวจึงทำให้เขาตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งผลการแข่งขันก็ไม่ทำให้น้องสาวและคนในครอบครัวผิดหวัง

“สมัยก่อนน้องสาวชอบฟังรายการวิทยุ และเขาเห็นว่าเราเป็นคนชอบออกกำลังกายก็เลยชวนไปยื่นใบสมัคร จัดการทุกอย่างให้หมด จนกระทั่งวันตัดสินก็ยกครอบครัวมาเชียร์ อาม่า อากง คุณยาย มากันหมดเลย”

ด้วยกำลังใจที่เปี่ยมล้น ทำให้เดี่ยวสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง และเริ่มต้นงานในวงการบันเทิงด้วยบทบาทพิธีกรรายการ OIC จากนั้นจึงมีโอกาสชิมลางงานละคร

ละครเรื่องแรกสอนให้พัฒนาตนเอง
เมื่อมีโอกาสเล่นละครเรื่องแรก แม้เขาจะพกพาความตั้งใจมาเต็มร้อย แต่ก็พบว่าตนเองยังมีข้อบกพร่อง และขาดทักษะในการแสดง ละครเรื่องแรกของเดี่ยวจึงเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนที่ทำให้เขาเรียนรู้และมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือของตัวเองอย่างจริงจัง

“ฉากแรกของละครเรื่องแรกรู้ตัวเลยว่า เล่นแข็งมาก บทตอนนั้นคือให้มองผู้หญิงคนที่เราชอบ ที่เผอิญมาเจอกันโดยบังเอิญ แล้วเขาขับรถไป เราก็มองตามเขา เรามองตาไม่กระดิกเลย หันไปทั้งตัวเลยครับ เล่นแข็งมาก จ้องเขาไม่กระพริบตาเลย ซีนนี้จำได้ว่าเป็นครั้งแรกของชีวิตนักแสดง ผู้กำกับเขาก็ให้เข้าไปนั่งเช็คเทปดูว่าเป็นยังไง โอ้โห รู้เลยว่ามันไม่ได้ มันไม่ใช่”

ฉากแรกในละครเรื่องนั้นจึงช่วยเปิดประตูการเรียนรู้ให้เขาเรื่อยมา เพราะหลังจากนั้นเขาจะค่อยๆ เรียนรู้ มีสิ่งไหนไม่เข้าใจก็สอบถามจากนักแสดงรุ่นพี่ ผู้กำกับ รวมถึงพยายามดูละครให้ละเอียดมากขึ้นกว่าแต่ก่อนที่ดูละครเพื่อความบันเทิงอย่างเดียว เหนือสิ่งอื่นใดครอบครัวของเขายังช่วยขัดเกลาการแสดงของเขาในฐานะคนดูอยู่เสมอ

“เวลาละครออกอากาศจะกลับมาดูละครกับครอบครัว ดูตลอด ดูทุกเรื่อง เพราะเราอยากเห็นว่าเราเล่นเป็นยังไง ดูในฐานะที่เราเป็นผู้ชมคนหนึ่งคอมเม้นต์กันในครอบครัวว่า เรื่องนี้ ฉากนี้ เราเล่นเป็นยังไง จะได้แก้ไขต่อไปในเรื่องหน้า”

 

โชคดีที่ค้นพบ “ตัวตน”
เดี่ยวเองคงไม่แตกต่างจากใครหลายๆ คนที่ไม่เคยรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองชอบ รัก ถนัด และมีความสุขกับสิ่งใด แต่เขายังจัดอยู่ในกลุ่มผู้โชคดีที่ได้น้องสาวมากระตุ้นและทำให้รู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าแท้จริงแล้วเขารักการแสดงมาตั้งแต่เด็ก

“ตั้งแต่สมัยเรียนประถม มัธยม อาจารย์จะเปิดโอกาสให้เราเป็นหัวหน้าห้อง มีอะไรก็ออกมานำเสนอ ขึ้นพูดหน้าเสาธง วันวิชาการก็ได้เป็นตัวแทนขึ้นพูด มีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันหลายๆ รายการ ทั้งหมดนี้ไม่รู้เลยว่ามันทำให้เราสนุก และมีความสุขมาก”

“แต่มาค้นเจอตอนที่น้องบอกให้ผมไปประกวด พอเราประกวดปุ๊บ มันสนุก มีความสุข พอได้ทำพิธีกรก็อยากไปทำงานทุกวัน ทำไมเราถึงสนุกทุกครั้งที่มาทำแบบนี้ แล้วพอเล่นละครก็แฮปปี้ เพราะการเป็นพิธีกรได้เป็นตัวของตัวเอง เป็นการนำเสนอข้อมูลอย่างหนึ่ง ละครก็เป็นการนำเสนอข้อมูลเช่นเดียวกัน แต่เราต้องเป็นคนอื่น นี่แหละน่าจะเป็นสิ่งที่เราชอบ และเป็นอนาคตของเราเลย”

 

ธุรกิจกีฬา ความฝันที่รอวันสานต่อ
นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว เดี่ยวยังมีคุณพ่อเป็นต้นแบบการเป็นนักธุรกิจ เขาฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะเป็นนักธุรกิจเหมือนคุณพ่อ หากแต่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา ซึ่งเป็นสิ่งที่รักและโปรดปรานมาแต่ไหนแต่ไร

“ผมชอบอะไรที่เป็นกีฬามาก ทุกอย่าง ทุกประเภท ดูทีวี ไปเชียร์ถึงขอบสนาม หรือแม้แต่อยากจะลงแข่ง เอง เราชอบมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อพาไปดูซีเกมส์ ไปเจอนักกีฬาทีมชาติเก่งๆ ได้ดูนักกีฬาซ้อมก็มีความสุข เราคิดว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับกีฬานี่แหละที่เราอยากจะทำ”

“แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม อาจจะเรื่องของความรู้ในเชิงธุรกิจและก็เรื่องของความมั่นคงต่างๆ ก็เลยมองว่าค่อยๆ คิดไปเรื่อยๆ เราก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะต้องเป็นอะไร อาหาร อุปกรณ์กีฬา หรือเครื่องออกกำลังกาย แต่อะไรก็ได้ที่อยู่ในโซนนี้ทั้งหมด ถ้าโอกาสนั้นมาถึงก็คงลงมือทำแน่นอน”

 

สุขภาพดี…เพราะมีคุณแม่เป็นพี่เลี้ยง
จากรูปร่างภายนอกของชายหนุ่มผู้นี้คงพอยืนยันได้ว่าเขาเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่มีวินัยในการออกกำลังกาย รวมทั้งยังใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ สำหรับตัวเขาเองขอยกความดีทั้งหมดนี้ให้กับคุณแม่ที่คอยปลูกฝังและดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพของเขามาโดยตลอด

“เรื่องดูแลสุขภาพจะมี 3 อย่างหลักๆ คือ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ถ้าอาหารและการพักผ่อนต้องยกความดีความชอบให้คุณแม่ เพราะคุณแม่ ทำให้เรามีวินัยในเรื่องการกินและการพักผ่อน”

นอกจากนี้คุณพ่อ และคุณอาของเขาก็ยังออกกำลังกายและใส่ใจในเรื่องสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ถ้าจะบอกว่าครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่รักการออกกำลังกายและใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นชีวิตจิตใจก็คงไม่แปลกนัก

ครอบครัว…สิ่งสำคัญที่ทำให้มีวันนี้
“ครอบครัว” เป็นส่วนสำคัญที่หล่อหลอมให้ใครหลายๆ คนประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับความสำเร็จของเดี่ยวในวันนี้เป็นเพราะครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับทุกช่วงชีวิตของเขา

“มีอยู่ประโยคหนึ่งจำได้ ตอนนั้นเครียดมาก น่าจะมัธยมปลาย ที่ให้เลือกสายวิทย์ สายศิลป์ เราเลือกสายวิทย์ เราเครียดกับฟิสิกส์ เคมี ชีวะ รู้สึกทำคะแนนได้ไม่ดี เรากังวลแล้วว่าจะทำไงดี เหมือนการเรียนเราดีมาตลอด ช่วงนั้นก็มาคุยกับพ่อแม่ว่า หวังกับเรามากแค่ไหน?”

“คุณพ่อ คุณแม่พูดประโยคหนึ่งจำจนถึงทุกวันนี้ ไม่สำคัญเลยว่าลูกจะเก่งมาก จะต้องประสบความสำเร็จ เป็นที่หนึ่ง แต่ขออย่างเดียว ขอให้เป็นคนดี คำนี้เลย ขอให้เป็นคนดี คำๆ นี้จำอยู่ในสมองผมมาตลอด และผมก็พยายามตีโจทย์ความเป็นคนดีคืออะไร สถานการณ์ไหน แบบไหน เราก็พยายาม ปฏิบัติตัวให้ได้อย่างที่พ่อแม่ได้สอนเอาไว้”

ทุกวันนี้หนุ่มเดี่ยวมั่นใจและยืนยันที่จะทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งเป็นงานที่ตนเองรักแบบนี้ไปตลอด เพราะเขารู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร มีความสุขกับสิ่งไหน โดยทุกย่างก้าวในวงการบันเทิงจะมีครอบครัวของเขาเป็นพลังและแรงใจผลักดันอยู่เบื้องหลังเสมอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook