Club 21 Thailand ร่วมกับ Bridge Art Agency กับโปรเจกต์ Fashion Art Pop Up Gallery

ศิลปะและแฟชั่น คือ สองจักรวาลที่โคจรมาพบกับเสมอ โดยเฉพาะความหลงใหลในศิลปะของดีไซเนอร์ ที่เป็นแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ผ่านโครงร่าง สีสัน และลวดลายของชิ้นแฟชั่นอย่าง เสื้อผ้า แอคเซสซอรี และรองเท้า ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ได้อย่างลงตัว ผู้คน ศิลปะ และแฟชั่นจึงไม่เคยห่างหายจากกันไปไหน

เป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษในวงการแฟชั่นที่ Club 21 ยังคงเดินหน้าทำหน้าที่เป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์หรูที่มอบ ประสบการณ์ที่มีสไตล์และล้ำสมัยอย่างเต็มที่โดยไม่ย่อหย่อนลงแม้แต่น้อย ซึ่งในปีนี้ก็มาพร้อมโปรเจกต์ใหม่ ที่จะสานต่อเป้าหมายดังกล่าว โดย Club 21 ได้ร่วมกับ Bridge Art Agency สร้างสรรค์โปรเจกต์ Fashion Art Pop up Gallery ขึ้น เพื่อผนวกรวมและกระชับความสัมพันธ์ของผู้คน ศิลปะ และแฟชั่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจำลองอาร์ตแกลอรีอันเป็นพื้นที่สำหรับศิลปะไว้ภายในร้านเพื่อสร้างสุนทรียภาพด้านศิลปะและแบ่งปันแรงบันดาลใจด้านการมิกซ์แอนด์แมตช์ให้กับคนรักแฟชั่น รวมไปถึงเพื่อแสดงออกถึงความหลากหลายของไอเทม ที่วางจำหน่ายภายในร้าน Club 21 (Men’s store) ซึ่งไม่เพียงเป็นแค่เสื้อผ้าและแอคเซสซอรี หากแต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน

 

โปรเจกต์นี้เป็นการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับ Bridge Art Gallery ภายใต้คอนเซปต์ When you found your inspiration in art, the fashion store became an art gallery โดยการตกแต่งบูธีคของ Club 21 สามแห่งด้วยงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากฝีมือของศิลปินไทย 6 ท่าน ในการดูแลของ Bridge Art Agency ซึ่งออกแบบขึ้นพิเศษ เพื่อแสดงและจัดจำหน่าย ณ Club 21 (Men’s store) ทุกสาขา

โปรเจกต์นี้จะจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม 2565 โดยเริ่มจากสาขา

The EmQuartier ในเดือนสิงหาคม, สาขา Gaysorn Village ในเดือนกันยายน ก่อนปิดท้ายที่สาขา Siam Discovery ในเดือนตุลาคม ซึ่งงานศิลปะจะแตกต่างกันไปในแต่ละสาขา บูธีคสาขา The EmQuartier จะรับ หน้าที่เป็นอาร์ตแกลอรีแสดงผลงานศิลปะ โดยเริ่มต้นด้วยงานของ BIGDEL ศิลปินกราฟฟิตี้รุ่นบุกเบิก ซึ่งใช้สโลแกนส่วนตัว ’Each of us has our own unique character. Sometimes it’s hard to express. So, this series help you to illustrate yourself with a symbolic of styles.’ ในการสร้างสรรค์ครั้งนี้ เขาได้ดึงซิกเนเจอร์ของแต่ละแบรนด์มาถ่ายทอดลงบนผลงาน ได้แก่ Acne Studios ในผลงานที่มีชื่อว่า “THE LOOP” และ THE PEACE ส่วน AMI และ Thom Browne ในผลงาน “THE LOVE” และ Vetements ในผลงาน “HELLO” รวมไปถึงผลงาน “KEEP ROLLING”, “KEEP TAGGING” และ “KEEP SPRAYING” ซึ่งเป็นผลงานต้นฉบับของ BIGDEL ซึ่งจะถูกนำมาจัดวางอยู่ภายในอาร์ตแกลเลอรี่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

 

อีกหนึ่งศิลปินที่จะนำผลงานมาร่วมแสดงในโปรเจกต์นี้ ได้แก่ NEV3R ซึ่งเป็นหนึ่งในคิวเรเตอร์ของโปรเจกต์ เขามาพร้อมสโลแกน Do it yourself! Create your own way! Believe in You!!! โดยถ่ายทอดผ่านผลงานชื่อ FUTURE IS, LOVE:VER, EAT M3, BLVCK NATURE 3 ซึ่งเป็นงานปั้นเรซินและเพนท์ด้วยมือ