พระราชประวัติ เชค เคาะลีฟะฮ์ กษัตริย์ผู้เป็นที่มาของชื่อตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa

พระราชประวัติ เชค เคาะลีฟะฮ์ กษัตริย์ผู้เป็นที่มาของชื่อตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa

พระราชประวัติ เชค เคาะลีฟะฮ์ กษัตริย์ผู้เป็นที่มาของชื่อตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พระราชประวัติ ‘เชค เคาะลีฟะฮ์’ กษัตริย์ผู้พลิกฟื้นวิกฤติทางการเงินของประเทศสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และอัญเชิญพระปรมาภิไธยตั้งเป็นชื่อตึกที่สูงที่สุดในโลก
 
การสวรรคตของ เชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน (His Highness Sheikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2022 นับเป็นการสูญเสียอีกหนึ่งบุคคลสำคัญระดับโลก พระองค์ทรงเป็นผู้พลิกฟื้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากวิกฤตเศรษฐกิจสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และทำให้เศรษฐกิจที่ไม่ใช่น้ำมันเติบโตขึ้น นอกจากนี้ยังทรงนำศูนย์วัฒนธรรม และสถาบันการศึกษาระดับโลก มาสู่รัฐอาบูดาบี ยกระดับให้ประเทศมีความทันสมัย เทียบเท่าประเทศทางตะวันตก และสร้างสัมพันธภาพอันดีกับสหรัฐอเมริกา และอิสราเอล ผู้เป็นที่มาของชื่อตึกสูงที่สุดในโลก Burj Khalifa

พระราชประวัติ ‘เชค เคาะลีฟะฮ์’ กับ Burj Khalifa
เชค เคาะลีฟะฮ์ บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์โตใน เชค ซายิด บิน สุลต่าน ประธานาธิบดีพระองค์แรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับพระชายาพระองค์แรก อัล นาห์ยัน เชค ฮัสซา บินต์ โมฮัมเหม็ด อัล นาห์ยาน พระราชสมภพเมื่อวันที่ 7 กันยายน 1948 ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ (Royal Military Academy Sandhurst)

ทรงดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองครั้งแรกในปี 1966 เมื่อพระราชบิดาของพระองค์ขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี เชค เคาะลีฟะฮ์ ทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เป็นผู้แทนพระองค์ในภูมิภาคตะวันออกของอาบูดาบี ต่อมาปี 1969 ทรงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นมกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี และดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาบูดาบี ทรงมีพระราชภารกิจในการสร้างกองกำลังป้องกันของรัฐอาบูดาบี และทรงกลายเป็นกำลังหลักของกองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปี 1971

กระทั่งปี 2004 ทรงสืบทอดตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครแห่งอาบูดาบี และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ต่อจากพระราชบิดา ซึ่งเสด็จสวรรคต ด้วยพระอาการประชวร และทรงได้รับเลือกเป็นประธานาธิบเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2009

ในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงวิกฤตการเงินระหว่างปี 2007 – 2008 ทรงอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่รัฐดูไบ และมีการอัญเชิญพระปรมาภิไธย ตั้งเป็นชื่ออาคารที่สูงที่สุดในโลก จากเดิมชื่อ Burj Dubai เป็น Burj Khalifa เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ จนในปัจจุบัน ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแลนด์มาร์ก ที่ใครที่ได้ไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต้องได้ไปถ่ายรูป และขึ้นไปชมวิวบนจุดสูงสุด

ต่อมาในปี 2011 ทรงได้รับการจัดอันดับให้เป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปี 2013 ทรงซื้อเรือยอทช์ที่ยาวที่สุดในโลก Azzam ซึ่งมีความยาว 180 ม. มูลค่าประมาณ 400 – 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ระหว่างทรงดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครรัฐดูไบ ทรงดึงดูดศูนย์วัฒนธรรม และสถาบันการศึกษาระดับโลกมายังรัฐอาบูดาบีมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาบูดาบี, มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก อาบูดาบี, มหาวิทยาลัยซอร์บอน อาบูดาบี และทรงก่อตั้งสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ ต่อมาปี 2014 ทรงประชวรด้วยโรคหลอดเลือดในสมองตีบ และมีรายงานว่าภายหลังทรงรับการถวายการผ่าตัด ทรงมีพระอาการคงที่มาโดยตลอด กระทั่งเสด็จสวรรคตในปี 2022

ด้านชีวิตส่วนพระองค์ อภิเษกสมรสกับ ชัมซะฮ์ บินต์ ซุฮัยล์ อัลมัซรูอี และมีพระราชโอรส และพระราชธิดาด้วยกันถึง 8 พระองค์ ซึ่งภายหลังการสวรรคต พระราชอนุชา เชค มุฮัมมัด บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ทรงเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบีต่อจากพระองค์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook