ทำความรู้จักกับ 4 นาฬิกาเรือนเด่นจาก Frederique Constant

ทำความรู้จักกับ 4 นาฬิกาเรือนเด่นจาก Frederique Constant

ทำความรู้จักกับ 4 นาฬิกาเรือนเด่นจาก Frederique Constant
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Frederique Constant เป็นนาฬิการาคาจับต้องได้ มีความหรูหรา ผสมผสานดีไซน์คลาสสิก ตัวนาฬิกาทั้งหมดถูกออกแบบอย่างสวยงาม ประณีต เรียกว่าละเอียดทุกขั้นตอนการผลิตก็ว่าได้ ขณะที่รูปแบบดีไซน์ของนาฬิกาก็มีให้เลือกหลากหลาย จนเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่หนุ่มๆ สามารถเลือกนาฬิกาที่เหมาะสมที่สุดในการสวมใส่ เพื่อให้เข้าถึงบุคลิก ไลฟ์สไตล์ บ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างลงตัว โดยวันนี้ Sanook ขอหยิบนาฬิกา 4 เรือนเด่นจากแบรนด์ Frederique Constant มาแนะนำทุกคนให้ได้รู้จักกัน

Classic Tourbillon Perpetual Calendar Limited

เริ่มที่รุ่นแรก Classic Tourbillon Perpetual Calendar Limited ที่มีแค่ 88 เรือนในโลก นาฬิการุ่นนี้จัดอยู่ในนาฬิกาตระกูล Manufacture ซึ่งคำว่า Manufacture คือนาฬิกาที่ผ่านการออกแบบ ผลิตทุกชิ้นส่วนกลไกจักร และประกอบโดยช่างประกอบนาฬิกาประสบการณ์สูง ที่ประกอบด้วยความใส่ใจ ประณีต พิถีพิถัน สมกับสโสแกนของแบรนด์ที่ต้องการสื่อว่า Live Your Passion 

โดยในกล่องเล็กๆของ Tourbillon จะประกอบด้วยชิ้นส่วนมากกว่า 60 ชึ้น จึงเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกหรือ Master Piece นั่นเอง Tourbillon ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดการคลาดเคลื่อนของเวลา เป็นกลไกที่มีความซับซ้อนระดับสูงสุดหนึ่งในสาม โดยออกแบบให้กลไกการทำงานกลางเป็นอิสระ เพื่อลดการต้านแรงโน้มถ่วงโลก แม้ปัจจุบันจะมีนาฬิกาแบบ Digital  ที่มีความเที่ยงตรงมากขึ้นแล้วก็ตาม

แต่นาฬิกาแบบ Tourbillon ก็ยังถูกวางตำแหน่งคุณค่า ว่าเป็นศิลปะแห่งเครื่องนาฬิกาชั้นสูง ซึ่งราคา Tourbillon ส่วนใหญ่จะสูงเป็นหลักล้าน Classic Tourbillon ของ Frederique Constant  มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ กระจก Crystal Sapphire กันน้ำ 30 เมตร และสำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง มาในราคา 924,000 บาท

Classic Worldtimer Manufacture

ต่อด้วย Classic Worldtimer Manufacture รุ่นนี้เป็นหนึ่งใน Best Selling ของแบรนด์ ด้วยหน้าตา การดีไซน์หน้าปัดที่ลงตัว สวยงาม ปัจจัยที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นที่นิยมมาจากข้อเด่นหลายประการ เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่มีความคลาสสิกตามแบบฉบับของนาฬิกาจากถิ่นเจนีวาอย่างเต็มเปี่ยม ความยอดเยี่ยมของกลไก Cal.FC-718 ที่นอกจากจะผลิตในโรงงานของตนเองที่เรียกว่า ‘In-house’ แล้ว ยังเป็นกลไกอัตโนมัติแสดงเวลา 3 เข็ม พร้อมฟังก์ชันแสดงวันที่ด้วยเข็มขนาดเล็ก ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ที่มากับฟังก์ชัน ‘World Time’ ซึ่งทำให้ทราบเวลาของทุกเขตเวลาโลกได้ในขณะเดียวกัน

ทั้งยังออกแบบให้ปรับตั้งได้อย่างง่ายดายที่สุดด้วยการใช้เม็ดมะยมเพียงชุดเดียว ข้อเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ระดับราคาค่าตัวที่แสนดึงดูดใจเมื่อเทียบกับความดีเลิศของกลไกที่ใช้ซึ่งยากที่จะหาได้จากแบรนด์ใดในระดับราคาใกล้เคียงกัน

โดยรุ่น Classic Worldtimer Manufacture มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตรที่มาพร้อมสายหนังจระเข้ กระจก Crystal Sapphire สำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง ฝาหลังกรุด้วยกระจกใสเพื่ออวดงานขัดแต่งลาย ‘Côtes de Genève’ (โกตส์ เดอ เฌอแนฟ) เป็นแนวโค้งกับลาย ‘Perlage’ (เพอร์ลาจ) บนสะพานจักร สกรูสีน้ำเงิน และโรเตอร์ฉลุโปร่งที่เคลือบสีทองกุหลาบ ความถี่ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง จำนวนชิ้นส่วน 139 ชิ้น ทับทิม 26 ชิ้น สำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง

ปัจจุบัน รุ่น Classic Worldtimer Manufacture ได้รับความนิยมสูงทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ โดยนาฬิกาฟังก์ชัน ‘World Time’ (เวิลด์ ไทม์) จากแบรนด์สวิสถิ่นเจนีวา Frédérique Constant (เฟรเดรีค คองสตองท์) ออกจำหน่ายครั้งแรก (ปี 2012) ความสำเร็จเกิดขึ้นแทบจะในทันที และยังคงเป็นดาวค้างฟ้ามายาวนาน โดยมีการออกเวอร์ชั่นต่างๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง จากความเรียบง่ายในโทนสีเงิน สู่ความทันสมัยตามกระแสนิยมในแต่ละช่วงเวลา อาทิ เวอร์ชั่นหน้าปัดสีน้ำเงิน สีน้ำตาล Chocolate และสีเขียว  (กรีน ฟอเรส) ที่ได้แรงบันดาลใจจากพื้นป่าสีเขียวของประเทศ

Slimline Power Reserve Manufacture

รุ่นถัดมา คือรุ่น Slimline Power Reserve Manufacture รุ่นนี้มีหน้าปัดดีไซน์คลาสสิก แสดงเวลา Power Reserve ผ่านตัวเลข พื้นผิวหน้าปัดดีไซน์ Sunray สะท้อนแสงเงามุมต่างๆ เพิ่มความสวยงามสะดุดตาของหน้าปัด

จุดเด่นของรุ่นนี้ คือการสำรองพลังงานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง สูงที่สุดในแบรนด์ แต่ยังคงขนาดตัวเรือนที่บาง มีเข็มชี้บอกพลังงานที่เหลือผ่านหน้าปัด ไม่ต้องกังวลว่านาฬิกาจะลานหมดอีกต่อไป  Slimline Power Reserve Manufacture มีหน้าปัดขนาด 40 มิลลิเมตร มาในราคา 120,000 บาท สำหรับตัวเรือน Stainless Steel  และ 131,000 บาทสำหรับตัวเรือน Rose gold

Slimline Moonphase Manufacture

อีกรุ่นที่จะแนะนำ คือ Slimline Moonphase Manufacture นาฬิกา Inhouse Manufacture ที่ผ่านการออกแบบเครื่องกลไก ผลิต และประกอบโดยช่างประกอบนาฬิกาผู้ผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยนาฬิการุ่นนี้ถูกออกแบบโดย Mr. Pim Koslang  นาฬิกา Slimline Moonphase รุ่นนี้มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ ฝาหลังโชว์กลไกการทำงานของเครื่องงดงามคลาสสิกลงตัว

นอกจากความพิเศษที่ใช้กลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์ซึ่งเป็นกลไกที่ทาง Frederique Constant ออกแบบและผลิตขึ้นเองภายในโรงงานของตนเองที่เจนีวา และยังเป็นกลไกอินเฮ้ารุ่นใหม่ Calibre FC-705 จิวเวล 26 ชิ้น กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง ที่มากับฟังก์ชั่นแสดงมูนเฟส และแสดงวันที่ด้วยเข็ม ซึ่งปรับตั้งอย่างสะดวกผ่านเม็ดมะยมอีกด้วย

กลไกนี้ถูกขัดแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายเพอร์เลจและโค้ตเดอเชอแนฟ โดยสามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจกที่อยู่บนฝาหลังของตัวเรือนสตีลขัดเงาขนาด 42 มิลลิเมตรพอดีข้อมือบุรุษยุคปัจจุบัน สวมใส่คู่กับสายหนังจระเข้ มาพร้อมกล่องไม้สุดคลาสสิกเข้ากับลักษณะของนาฬิกาภายใต้กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทรงโค้งแผ่นใหญ่ตามรูปแบบนาฬิกาสุดคลาสสิกจะมองเห็นหน้าปัดทรงโค้งแผ่นใหญ่ผายกว้างที่ติดตั้งหลักชั่วโมงแบบขีดเรียวบางซึ่งชี้บอกเวลาด้วยเข็มชั่วโมงกับนาทีขัดเงาทรงเรียวบางเช่นกัน โดยวางวงแสดงวันที่ซึ่งเจาะช่องแสดงมูนเฟสเอาไว้ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาอย่างลงตัวทั้งในด้านขนาดและรูปแบบ

หนุ่มๆ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ Frederique Constant ประเทศไทยได้ทางเพจ Facebook และ Instagram: Frederique Constant Thailand สามารถเลือกรับชมนาฬิกาได้ที่เคาเตอร์แบรนด์นาฬิกา Frederique Constant ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม สยามทาคาชิมาย่า เซ็นทรัล และเดอะมอลล์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook