กรณ์ ณรงค์เดช

" เป็นปีแรกที่ออกไปทำออดิชั่นต่างจังหวัดครับ เราไปกันที่ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เมื่อก่อนอาจมีการส่งซีดีเข้ามา แต่ตอนนี้คิดว่าจะเลิกระบบนี้แล้ว เพราะมันจะมีที่แต่งเสียงมาก็ได้ อย่างสมัยก่อนมีประกวดรอบเดียว ถ่ายทอดรอบเดียว พอปัจจุบันตัวคอนเทนต์รายการก็รื้อใหม่หมดเลย แต่จุดยืนก็คือเน้นการประกวดร้องเพลงเหมือนเดิม ก็คือคัดที่เสียง เพราะว่าเราเป็นเวทีเดียวที่เป็นถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วข้อแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือเราไม่ได้เป็นระบบโหวต แต่เราเป็นระบบกรรมการ คือคนที่ได้รางวัลทั้งหมดมาจากกรรมการ ในขณะเดียวกันก็มีป๊อปปูล่าโหวตให้คนทางบ้านมีส่วนร่วม ซึ่งหากใครได้ป๊อปปูล่าโหวตก็จะได้ทำผลงานออกมาก่อน "

แม้การประกวดร้องเพลงจะจบลง แต่เหมือนงานของเขายังเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เพราะหลังจากนี้คงจะต้องมีสิ่งที่ตามมาอีกมากมาย อาทิ การทำเพลงให้ศิลปิน การโปรโมท ซึ่งยังต้องทำอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันคนที่ชนะเลิศการประกวดซึ่งได้รับรางวัลป๊อบปูล่าโหวตก็คือ น้องกาย ก็ได้มีผลงานเพลงออกมาแล้วคือเพลง แค่ฝัน ส่วนศิลปินคนอื่นๆ ก็กำลังตามออกมาเรื่อยๆ ทำให้คุณกรณ์ต้องคอยดูแลศิลปินกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดกว่าตอนเข้าประกวดเสียอีก

ด้วยความสามารถของคุณกรณ์ แม้เขาจะบอกว่าเพิ่งจะมารับงานนี้เป็นงานแรก แต่ประสบการณ์ในการทำงานชิ้นใหญ่ๆ นั้นเขาก็เคยทำมาก่อน หากใครยังจำกันได้เมื่อหลายปีที่แล้ว เขาได้ทำโครงการแรกของบริษัท KPN Lifestyle ที่สร้าง The Cadogan คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ที่มีการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสผสมผสานกับอิตาเลียนตอนเหนือ ดูหรูหราสง่างามในซอยสุขุมวิท 39 โดยมีมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท

" เรื่องอสังหาริมทรัพย์ มันเป็นช่วงกระแสคอนโดบูม เมื่อสี่ห้าปีการแข่งขันมันจะค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นทุกซอยจะมีคอนโดกันหมด เราก็ต้องหาจุดข้อแตกต่าง ข้อแตกต่างอันแรก ของเราเป็นเจ้าแรกที่ทำคอนเส็ปต์ อย่างคอนโดที่อยู่ใจกลางเมือง แต่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และในขณะเดียวกันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรม 5 ดาว

" ถ้าพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ก็มีกระทบบ้าง ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีคนก็ใช้จ่ายกันน้อยลงพอสมควร ในขณะเดียวกันก็โชคดีตรงที่ว่า อสังหาริมทรัพย์มันเป็นปัจจัย 4 ที่ต้องใช้อยู่ แต่คนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรก็น้อยลงไป แต่การซื้อก็ยังมีอยู่ แต่ช้าลงเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีกว่าหุ้น เพราะหุ้นมีขึ้นมีลง แต่อสังหาริมทรัพย์มันยังมีทรัพย์สินอยู่"

ส่วนโครงการใหม่ๆ ที่หลายคนเฝ้าติดตามข่าวนั้น เขาบอกว่ายังต้องรอต่อไปอีกสักระยะ เพราะกำลังเจรจาติดต่อขอซื้อที่ดินย่านที่เหมาะสมอยู่ และตอนนี้ก็เอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มเทให้กับการทำงานที่ KPN Award เสียมากกว่า

" KPN ไม่ค่อยมีปัญหาครับ เพราะเศรษฐกิจดีไม่ดียังไง คนเราก็จะหาทางออกเรื่องเอนเตอร์เทนที่สามารถช่วยคลายเครียดได้ และก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายเยอะ การที่จะซื้อเพลง โหลดเพลง ยี่สิบสามบาทก็ไม่ได้แพงอะไร

"การทำงานของผมนั้น มันเป็นไปตามสัญชาตญาน แต่มันก็มีถูกบ้างผิดบ้าง แต่ส่วนมากจะถูกนะ ส่วนสิ่งที่เราคิดผิด เราคิดว่ามันน่าจะเป็นแนวทางนี้ แต่ผลออกมามันก็ไม่ใช่ก็มี ผมว่ามนุษย์เรามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องยอมรับได้ว่าโอเคตอนนี้ติดสินใจผิด ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์

"ถึงแม้ว่าผมจะเป็น CEO แต่ถ้าผมพูดอะไรไปก็ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผมทุกอย่าง คือไม่เห็นด้วยได้แต่ต้องมีเหตุผลที่ฟังขึ้นมาประกอบ ผมไม่ได้ถูกเสมอไป เวลาที่ผมใจดีก็ใจดี แต่ว่าที่จริงจังก็จริงจัง ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยดูว่าลูกน้องมาถึงออฟฟิศ
กี่โมง มาสายกลับเร็วไม่ว่า แต่ถ้าทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายแล้วทำถูกต้องก็โอเค"

ส่วนในเรื่องของอนาคตเขาบอกว่าสั้นๆ ว่า ยังไม่ได้คิดว่าจะต้องไปทำอย่างอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ในขณะนี้ เพราะอยากจะทำสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบให้ดีขึ้นไปอีก

"ก็คงทำเรื่องการประกวดให้มันดีต่อไป เพราะมันเหมือนการขึ้นหลังเสือ มีคนที่คนพูดถึงเยอะ จากที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่ตอนนี้ก็มีคนพูดถึงเยอะ เราก็คงเป็นอะไรที่ตามตลาดมากขึ้น เพราะถ้ารายการไม่สนุก คนก็ไม่ดู แล้วจุดยืนเราก็ชัดเจนว่าเป็นการประกวดร้องเพลง เสียงร้องต้องมาก่อน

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าหลังจากนี้ เราจะได้เห็นฝีมือคุณกรณ์ผู้อยู่เบื้องหลังของการประกวดในการทำเพลงของนักร้องในสังกัดอีกช่วงหนึ่งในปีนี้ ก่อนที่ปีหน้าเขาแย้มออกมาว่า การประกวด KPN Award จะต้องมีอะไรใหม่ๆ มาให้ติดตามชมกันอีกแน่นอน

Did you Know?

• เขาเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เอกศิลป์ ภาษาเยอรมัน และสอบเทียบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้

• จบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ ด้านการจัดการ เอกการตลาด จากกรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

• จบปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด จากประเทศอังกฤษ (เกียรตินิยมอันดับ 2)

• เมื่อตอนอายุ 16 ปี เขาเริ่มต้นธุรกิจด้วยตนเอง โดยการเป็นเอเย่นต์นำเข้านาฬิกาแบรนด์ดังจากเมืองนอกเข้ามาขาย

• ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด

Text : Passapong Prerajirarat
ขอบคุณภาพประกอบจาก instagram: kornnarongdej

>>> คลิ๊ก เพื่อชมภาพใหญ่ <<<

...............................................................................................................